ตุ๊ก เดือนเต็ม นับถือใจเพื่อนซี้ ลินดา ป่วยติดเตียงนานกว่า 13 ปี ไม่มีท้อ


ให้คะแนน


แชร์

ตุ๊ก เดือนเต็ม เป็นเพื่อนที่ดูแล ลินดา ค้าธัญเจริญ ที่ล้มป่วยจากอาการเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อปี 2547 และโรคมะเร็งที่โคนลิ้นมาตลอด ล่าสุด (เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563) ได้เจอนักแสดงรุ่นใหญ่ ที่มาร่วมพิธีบวงสรวงละครเรื่อง บังเกิดเกล้า ที่ช่อง อัมรินทร์ทีวี ผู้สื่อข่าวได้ขออัพเดตอาการของ ลินดา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

อาการของลินดาเป็นอย่างไรบ้าง ในช่วงโควิด-19?

“คือเราส่งของแล้วให้ทางนั้นเขาลงมารับค่ะ เราเข้าไม่ได้ ต้องบอกว่าดาเขามีบุญมาก เขาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้า ทุกวันนี้ดาเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งทางสำนักพระราชวังก็ยังดูแลอย่างดี ตอนนี้ก็มาอยู่บ้านมีความสุข เขาก็นอนหลับอยู่ดีมีสุข”

ดูหน้าตาสดใสมากขึ้น?

“สดใสค่ะ คือไปเยี่ยมทุกครั้ง ดาเขาเป็นคนที่เข้มแข็ง เขาจะยึดถือในพระมหากรุณาธิคุณ เขาบอกว่าดาจะไม่ยอมตายหรอก ดาจะเข้มแข็ง เพราะว่าดาอยากจะอยู่ถวายพระพรพระองค์ท่านตลอดไป อันนี้ที่เราฟังแล้วเราซึ้งใจ เพราะเขาจะเอารูปสมเด็จพระนางเจ้า สมเด็จพระพันปีหลวงวางไว้บนหัวเตียงตลอดเวลา แล้วเขาก็เขียนการ์ด เขียนอะไรต่ออะไรถวายพระพร”

“เขานอนโรงพยาบาลหน้าเขาตึงกว่าเราอีกนะ เขาไม่มีรอยแม้แต่นิดเดียว เขาสดใส เพราะเขากำลังใจดี เขามีความรู้สึกว่าเขาได้รับพระมหากรุณาธิคุณแล้ว เขาต้องมีชีวิต เพื่อจะตอบแทนพระองค์ ให้พระองค์รู้ว่าเขาเข้มแข็ง เขาต่อสู้ ให้สมกับสิ่งที่เขาได้รับ”

“เวลาไปเยี่ยมเราก็คุยกันสัพเพเหระ เราจะไม่คุยถึงเรื่องป่วย เราจะไม่คิดว่าเขาป่วย บอกไปแต่งตัวเดี๋ยวไปเที่ยวกัน เขาก็จะบอกไป ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ดาหรือยัง อยากไปโน้นไปนี่ เราก็จะคุยกันอย่างนี้ ทุกอย่างมันก็เป็นอัตโนมัติ เราไม่ต้องมาถามว่าเป็นไง เจ็บไหม ไม่ต้องอะไรเลย เราอย่าไปคิดว่าเขาป่วย”

“อาการตอนนี้ดีกว่าก่อนหน้านี้มากมานานแล้วค่ะ ตอนอยู่โรงพยาบาล หมอพยาบาลก็ดูแลดี แต่ต้องยกย่องคนที่ดูแลจริงๆ คือคุณเล็ก เขาอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันนี้เขามาอยู่กันสองคน เขาก็ต้องทำทุกอย่างแทน เหมือนเป็นพยาบาลอีกคนเลย ต้องยอมใจเขาจริงๆ นะ อยู่โรงพยาบาล 13 ปี ในโรงพยาบาลจุฬา แล้วมาอยู่อย่างนี้ เรานับถือใจเด็กคนนี้ เขาเป็นคนที่ดาเคยช่วยเหลือเขา พาเขาไปตอนป่วยไข้ แล้วเขากลับมาตอนที่ดาป่วย แล้วเขาก็เหมือนกับว่าตั้งจิตว่าเขาจะดูแลดาจนกว่าจะตาย”

เราก็อยู่ในทุกช่วงชีวิตของเขาเลย?

“เราอยู่ในช่วงชีวิตดามาตั้งแต่ปี 47 ที่ช่วยเหลือเขา ที่เป็นเจ้าของไข้ตั้งแต่โรงพยาบาลกรุงเทพ”

นับถือใจเขาไหมสู้มา 13 ปีแล้ว?

“เขาเข้าใจธรรมะ เราเอาเทปสวดมนต์ไปให้เขา เขาเข้าใจในสัจธรรม แล้วเขาก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาสวดมนต์ไหว้พระ เลยทำให้เขาใจเย็น เวลามีอะไรถ้าสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิ ทำให้ใจมันนิ่ง ทุกอย่างมันล้วนเกิดแก่กรรม มันเป็นไป แต่วันหนึ่งมันจะดีขึ้น เพราะเรายอมรับสภาพได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากใจค่ะ ถึงได้บอกว่าเราต้องมีสติตลอดเวลา”

“อย่าประมาท นอนให้เยอะๆ ในช่วง 4 ทุ่ม ถึง ตี 3 เป็นช่วงที่ร่างกายเราจะหลั่งสารและซ่อมแซม ถ้าเราไปนอนตี 3 ถึง 11 โมง ไม่มีประโยชน์ เราต้องนอนในช่วงที่ร่างกายเราซ่อมแซม แค่ 3 ชั่วโมงเต็มๆ ก็พอแล้ว เราถ่ายละครมาจนถึงอายุ 45 ที่ถ่ายถึงตี 1 ตี 2 แต่เราเป็นคนที่วันที่ไม่ถ่ายเราก็ไม่เที่ยว เราชดเชยไป แต่พอมาถึงตอนนี้ วันที่เราไม่ถ่ายเราก็นอน 4 ทุ่ม จะตื่นตี 3 ตี 4 ก็ไม่เป็นไร แล้วก็ทานอาหารเช้าให้เยอะที่สุด อาหารเช้ามื้อสำคัญเลย จะช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง”

เวลาไปเยี่ยมเขามีคิดถึงวงการบันเทิงไหม เพื่อนๆ รุ่นเดียวยังเล่นละครอยู่?

“เขาไม่คิดถึงใครเลย เขาจะมีแต่ว่าคิดถึงตัวนะ มานะ แค่นี้ แต่เขาก็จะดูละครดูอะไรของเขาไป กลายเป็นผู้ชม แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไร ณ ตรงนั้นแล้ว เราก็จะวีดีโอคอลกันตลอด ตอนมีโควิด-19 เราก็จะใช้วีดีโอคอลให้เห็นกัน เขาก็จะถามว่าโอเคไหม เขาสมัยใหม่นะ มีมินิฮาร์ท น่ารัก แล้วก็จะบอกให้มาๆ คิดถึง เราก็บอกอย่าเพิ่งช่วงนี้ฝนตก เพราะว่าเดี๋ยวเกิดไม่รู้ว่ามีเชื้ออะไร”

“มีความรู้สึกเหมือนกับว่า คือเราไม่มีลูกนะ แล้วเราชุบเลี้ยงเขา จากเขาเดินไม่ได้ มันเหมือนกับเขาเป็นลูกเราเลยนะ ความรู้สึกผูกพันเหมือนกับเราดูแลลูก เพราะว่าเขาเหมือนเด็กต้องเปลี่ยนแพมเพิร์ส เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเออ มันก็เติมเต็มซึ่งกันและกันนะ”

เสียใจไหม ความหวังดีที่เราทำไป ก็ยังมีคนจ้องจับผิด?

“ไม่ มารไม่มีบารมีไม่เกิด เอาจริงๆ นะคะ เรามองเป็นเรื่องของธรรมะ ว่าการเวลามันจะพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างเลย ไม่ต้องอะไรหรอก มาจนถึงบัดนี้แล้ว จะทำเพื่ออะไรอีก ไม่ต้องทำเพื่ออะไรแล้ว คนมาสัมภาษณ์เรายังไม่ค่อยอยากให้สัมภาษณ์เลย เพราะว่าเดี๋ยวจะโน่นนี่นั่น ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้ส่งเสียเลี้ยงดู ก็เป็นพระองค์ท่าน แต่บางทีที่เราอยากพูด เพื่อว่าเราอยากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เพราะว่าจริงๆ แล้วราชวงศ์เนี่ยนะ ถ้าจะต้องพูดถึงกันตรงนี้ คือท่านซับพอร์ตผู้คนมากมาย กี่ปีๆ ก็ยังทรงพระกรุณา”

“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว มีพร้อมทุกอย่าง จะต้องการอะไรก็ได้ทุกอย่าง ที่ผู้ป่วยติดเตียงพึงจะมี พออะไรขาด ทางสำนักพระราชวังก็ส่งมาให้ ก็ดูแล สีหน้าดูไม่เหมือนผู้ป่วยติดเตียง ไม่เคยมีบิดเบี้ยว ไม่เคยมีอะไรเลย เต่งตึงสวยงาม”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5144427
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5144427