"แอนนี่ บรู๊ค" โสดมานาน 10 ปี ไม่คิดมองหาใคร รับ "น้องฑี" หวงมากจนไม่อยากให้แม่มีแฟนใหม่


ให้คะแนน


แชร์

ผอมอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเสียเซลฟ์เพราะโดนเทงานถ่ายแบบ ทำให้ แอนนี่ บรู๊ค นักแสดงสาวจากภาพยนตร์เรื่อง “หร่อยจังจ้าว” ยอมรับว่าต้องรีบลดน้ำหนักเพื่อกลับมาทำงานเหมือนเดิม และวอนอย่าเปรียบเทียบหลังถูกโยงปม “ซิงเกิลมัม” กับ ซาร่า คาซิงกินี จนกลายเป็นดราม่า ส่วนความรักโสดมานานเพราะน้องฑีฆายุ ลูกชายหวงมากไม่อยากให้มีแฟนเลย

แอนนี่เผยว่า “แอนใช้เวลา 2 เดือน ลดไป 10 โล ช่วงรับงาน หลังจากโดนเทงานถ่ายแบบตอนนี้เหลือ 49 กก.”

เอาน้ำหนักลงได้ไวมากหรือตรอมใจหนัก

“ตัดแป้ง ตัดน้ำตาล ข้าวไม่กิน ไม่กินน้ำตาลทุกชนิด ใจแข็งมาก อารมณ์โมโหด้วย บางคนบอกทำไมทำตัวเอง ทำน้ำหนักขึ้นไปเอง สำหรับคนอื่นเงิน 4 หมื่น มันคือน้อย สำหรับเค้าแต่มันมากสำหรับเรา เราทำทุกอย่าง เราไม่ได้เลือกงานผอมหรืออ้วน ได้น้อยได้มาก เงินก็คือเงิน พอโดนเทก็เสียใจ ก็เริ่มใหม่ จำกัดอาหารในการกิน”

พอกลับมาผอมแล้ว น้องฑี ลูกชายว่ายังไงบ้าง

“เค้าไม่สนใจนะ สนใจแค่แม่อ้วนมากกว่า ถ้าเราอ้วนเค้าไม่ชอบ ถ้าเราไม่สวย หน้าเป็นฝ้า เค้าจะทัก มีดำๆไปหาหมอมั้ย เค้าชอบแม่สวย อยากให้อยู่กับเค้าไปนานๆ สตัฟฟ์หน้าแม่เอาไว้แค่นี้”

เพิ่มภาระให้แม่เลยสิ

“มาก (หัวเราะ) แต่เป็นเรื่องที่ดีมีคนคอยเป็นห่วงเป็นใยเรา เค้าอายุ 10 ขวบ ห่วงใยเรื่องรูปร่างให้เรา แต่สอนเค้าไปด้วย บอกเค้าฑีเห็นมั้ย ต่อไปในอนาคตเลือกอาชีพ คือไม่ได้ว่าใครนะแต่เราจะสอนลูกให้เค้าเลือกอาชีพใช้อาชีพจนสิ้นลมหายใจและต้องเป็นอาชีพที่รักด้วย ถ้าฑีใช้ความสามารถต่อให้ฑีแก่แค่ไหนความสามารถของฑีจะอยู่ตลอดไป สอนเค้าแบบนี้”

เรากลับมาผอมงานที่เข้ามา

“ดีค่ะ งานรีวิวสินเค้าเริ่มมีติดต่อเข้ามา หน้าตาไม่ได้ดูแก่มาก ทำให้เรามีกำลังใจ ก่อนหน้านี้แอนว่าเป็นที่จิตใจด้วยมั้ยเพราะช่วงนั้นแม่ป่วยจะงอแง ทำให้ใจเราไม่สงบเราก็เครียด พอไม่เครียดข้างในมันดี มันออกมาเอง”

ล่าสุดกรณีซาร่า คาซิงกินี คนจะมาเปรียบเทียบกับแอนนี่ ที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน

“แอนว่าคนเราก็มีวิธีการดูแลชีวิตของตัวเอง มีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน จริงๆ ไม่ควรเปรียบเทียบกันเพราะเค้ามีชีวิตของเค้า ก็ขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นเรื่องของคนอื่น เราไม่อยากเข้าไป เหมือนยกหางตัวเองดีกว่าเค้า เราก็อยู่ของเราเป็นแบบนี้มาตลอด เราเองก็โดนเปรียบเทียบ…อีกหน่อยก็ให้เหมือนคนนั้นสิ ให้ฑีไปทำวงการบันเทิงแบบคนนั้นสิ มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ การเลี้ยงดูเด็กแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน”

เห็นว่าฑีหวงแม่มากไม่อยากให้มีแฟน

“ไม่ให้มีค่ะ และแอนก็ไม่มีใครนะ นี่ก็ 10 ปีแล้วนะ”

มีคนเข้ามาจีบบ้างมั้ย

“มีคนเข้ามา สวัสดีครับ ซิงเกิลมัมหรือเปล่า จีบได้มั้ย เลยบอกว่าจีบได้ค่ะ เซเว่นก็มีแถมมีซาลาเปาด้วย (หัวเราะ) บางทีส่งไดเรกต์ อินบ็อกซ์มามันก็ไม่ใช่ แต่ถ้าให้คนมาจีบต่อหน้าต่อตาเลย ณ วันนี้ยังไม่มีใครกล้ามั้ง ของแรง กลัวหรือเปล่า ไม่ต้องกลัว คุยได้ (หัวเราะ)”

ด่านฑีน่าจะยากสุดหรือเปล่าหากจะจีบแม่

“แปลกนะใครที่มาคุยภาษาอังกฤษกับเค้าแบบเพื่อน เค้าจะเปิดใจจะเข้าได้ง่ายมาก แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเข้ามานะ แต่ถ้ามาแบบ สวัสดีครับน้องฑีเป็นยังไงบ้าง เค้าก็จะรู้สึกมาจีบแม่ฉันหรือเปล่า เค้าเริ่มกอดแม่ หวงแม่ ง่ายๆเลย แม้แต่เอส ผู้จัดการที่คอยรับงานให้ ทั้งๆที่รู้จักกันนะ แต่นานๆเจอกันที มาถึงจับแขน ว่ายังไง เป็นไร หรือเพื่อนผู้ชายทักเป็นยังไง ทันทีเลย ฑีจะโผเข้ามากอดแล้วนางไม่ปล่อยด้วย ทั้งๆที่กำลังเล่นเกมอยู่ โทรศัพท์วางเลยจ้า แล้วฑีจะเข้ามาอ้อน บอกรักแม่นะ หอมหน่อยสิ แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทันที ปกติไม่ขนาดนี้”

ความรักตอนนี้เราเข็ดกับมันหรือเปล่า

“วันนี้แอนไม่มองหาความรักแล้วเพราะว่าไม่มองหาผู้ชายเลย หาไปก็ไม่เจอ มันเหมือนคนมีลูกติด ไม่รู้คนสมัยนี้ยังเปิดใจกว้างอยู่เปล่า เค้ายังมองเราเป็นคนมีตำหนิ เค้าจะต้องมีภาระเพิ่มขึ้นหรือเปล่าถ้าเค้าจะต้องมารักเรา จริงๆแล้วคิดผิดเพราะเราไม่ต้องการเป็นภาระใคร เราทำมาหากินดูแลตัวเองมาตลอดแต่ด้วยความรักของฑีมันทำให้แอนไม่โหยหาความรักจากใครแล้ว พอแล้ว แฮปปี้ ให้ลูกมีแฟนก่อนแล้วกัน ถึงตลาดจะวายก็ค่อยมาว่ากัน”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1958530
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1958530