อ๊อด โฟร์เอส เผยชีวิตเหมือนถูกสาป เคยคิดฆ่าตัวตายหนีความจน ชาตินี้ไม่เลิกรำวง
เจ้าพ่อรำวงแถวหน้าเมืองไทย อย่าง อ๊อด โฟร์เอส ที่ชีวิตวิ่งตามความฝันอยากเป็นนักร้องมาตลอด แต่ก็พลาดโอกาสไปหลายครั้ง ยังไม่ท้อ จนตามความฝันสำเร็จ ซึ่งระหว่างทางเจอปัญหามากมายเคยคิดฆ่าตัวตาย ประกาศชาตินี้จะไม่เลิกรำวง โดยเจ้าตัวมาเผยทุกประเด็นผ่านทางรายการคุยแซ่บ SHOW ทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร
เข้าวงการตั้งแต่อายุ 14 ปี?
“เข้าวงการตอน 26 ครับ 14 นี่เชียร์รำวงอยู่บ้านนอก เป็นนักร้องด้วย เป็นงานรื่นเริง มีช่วงนึงที่ร้องเพลงแล้วเลิกร้อง เพราะว่าแตรวงมันมีปัญหาเยอะมากมายหลากหลาย ปัญหาหนึ่งแย่งนางงามบ้าง มันก็มีปัญหา จำจังหวะเพลงที่ขอมาผิดบ้าง ที่เจอกับตัวเองก็คืออายุ 15 เพื่อนกันเหมา 2 กลุ่ม จำรอบผิด ทีนี้ก็ต่อยกัน พอแยกออกจากกันหันหลังได้ยินเสียงปืนเพื่อนเราก็ร่วงลงไปเลยเสียชีวิตเลย จนมาสักพักใหญ่ที่เมืองกาญโดนระงับหมดเลย เพราะว่ามีเรื่องบ่อย”
เลยต้องเข้ามากรุงเทพฯ?
“ร้องเพลงอยู่ร้านอาหารก่อน แฟนเป็นหางเครื่องพุ่มพวง ดวงจันทร์ พอเขายุบวงแฟนมาเต้นที่ร้านเลยได้เจอกัน ต่างคนต่างนินทากันเขาก็ว่าเรานักร้องเตี้ย เราก็ไปคุยกับเจ้าของร้านจ้างหางเครื่องโคตรแก่เลย คุยไปคุยมาเขาก็จนเราก็จนแล้วเขาผิดหวังมาผมก็ผิดหวังมา งั้นเรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันไหม คุณอยู่กับผมไหม เรามาสร้างด้วยกันไหม เราก็ดึงเข้าห้องเลย พอตอนเข้ามากรุงเทพฯ ลงรถเนี่ยห่างเมียไม่ได้เลยต้องจับเสื้อเมียเอาไว้ เพราะว่าไม่เคยมา”
เข้ามากรุงเทพฯไปอยู่วงดนตรี?
“มีเปิดวงใหม่เขาเป็นหางเครื่อง เราก็ไปช่วยเก็บชุด มีคนรู้จักนำเสนอว่าผมร้องเพลงได้ เขาให้ร้องเลยได้เป็นนักร้อง แล้วเราเป็นคนบ้าจี้ก็มีหลุดคำอะไรขำๆออกมา พอดีกับที่ตลกขาดเลยจับมาเล่นตลก”
จากตลกไปเป็นนักร้องได้ยังไง?
“ตลกก็ต้องใช้เพลง ใช้เสียงร้อง ความสามารถเฉพาะตัวคือเลียนเสียงแบบนักร้องได้หลายคน เราอยากเป็นนักร้อง คิดตลอดแต่เชื่อเรื่องบุญวาสนา มีคนไปเจอเราเล่นตลกแล้วร้องเพลงบอกว่าถ้าร้องแบบนี้จะทำเพลงให้สักชุดนึง เขานัดให้ไปหาอีก 3 วัน เราดีใจมาก กลับถึงบ้านรีบไปกราบพ่อเลย พอวันที่ 2 ได้ข่าวว่าเขาโดนยิงตายแล้ว เราก็ต้องเล่นตลกมาเรื่อยๆ จนมีเจ้าของร้านคาราโอเกะให้ไปนั่งลองเสียง เขาก็แบบถ้าแบบนี้ทำทีเดียว 2 ชุดเลย โอกาสมาอีกแล้ว คราวนี้มีโทรศัพท์แล้วโทรหาพ่อ ไม่ถึง 7 วัน ลูกน้องเจ้าของร้านยิงแขกตายหน้าร้าน ร้านปิดจบอีกไม่ได้เป็น ก็เล่นตลกต่ออยู่คณะศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม ได้ประมาณ 5-6 เดือน เกิดเป็นอัมพฤกษ์”
เกิดอะไรขึ้น?
“วันนั้นเล่นที่วิลล่าเสร็จประมาณตี 3 กลับบ้านก็ไม่ได้นาน เพราะจะไปเล่นที่ลำปาง จะเอาครอบครัวไปเที่ยวด้วย ก็ไปทำรถซ่อมเช็กอย่างดีเลย ก็ขับรถไปลำปางพอเล่นเสร็จก็ตีรถกลับ ไปหาพ่อไปอาบน้ำให้พ่อเพราะเป็นช่วงสงกรานต์ เราเริ่มรู้สึกปากเบี้ยวก็รีบกลับกรุงเทพฯ ขับรถมาถึงนครปฐมเขาห้องน้ำที่ปั๊มลองดูดน้ำ พอดูดปุ๊ปมันไปหมดเลยเบี้ยวหมดเลย ครอบครัวก็ตกใจไปหาหมอ ทั้งฉีดยากินยา พูดเล่นๆที่ไปเล่นตลกว่าถ้ามีใครมียารักษาอัมพฤกษ์หายปากเบี้ยวได้ผมจะยกให้ไปครองเลย ก็มีคนแก่วิ่งตามผมไมยราพเอามาต้มกินแทนน้ำเลย ใครว่าดีกินหมด ก็ดีขึ้น”
เครียดจัดเคยคิดฆ่าตัวตาย?
“เคย ยอมรับว่าบ่อยมาก มันมีหลายเรื่องหลายอย่างที่รบเร้าเข้ามา ครอบครัวเหมือนเป็นอะไรที่ถูกสาปพี่ชายยิงตัวตาย พี่ชายคนโตผูกคอตาย น้องชายถูกรถชนตาย เราก็คิดทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้ จนมีโอกาสได้ไปกราบพระพุทธชินราชที่พิษณุโลกครั้งแรก ก้มลงกราบน้ำตาไหลพรากเลย เราขอให้ดวงเปิดพอกลับมาเรารู้เลยดวงเริ่มเปิด หลังจากนั้นขายของตลาดนัด เป็นพิธีกร แล้วเราก็แต่งเพลงไว้เยอะ ทำไมไม่เอาเพลงมาเสนอขาย ได้เงินมา 90,000 ดีใจมาก กลับมาถึงบ้านเอาตังค์มาเรียงบนที่นอนครึ่งนึง อีกครึ่งนึงถือไว้ เรียกแม่บ้านบอกเรามานอนบนนี้กัน นอนทับเงินให้พูดตามฉัน ลูกยากจนมาเหลือเกิน ลำบากมาทั้งชีวิต ขอให้ลูกมีโอกาสได้นอนอยู่บนกองเงินกองทองมั่งเถอะ เสร็จก็เก็บ เอาเงินไปจ่ายหนี้”
จะได้เป็นนักร้องแต่โดนเอาเพลงไปให้คนอื่นร้อง?
“นายห้างจะให้เราร้อง เราแต่งเพลงอยู่ถ้าเอามาร้องเองมันจะน่าเกลียด เขาลงทุนให้เราดีใจมากอัดเสร็จถ่ายมิวสิคเสร็จแล้ว แต่ยุคนั้นเป็นยุคที่นักร้องหล่อหน้าตาดี ทางหุ้นส่วนเขาก็กลัวว่าทำแล้วจะขายไม่ได้ ก็เลยต้องโอนไปให้คนอื่นร้อง”
ชีวิตไปทางไหนต่อ?
“ครอบครัวไปเจอรำวงเห็นแล้วไม่ค่อยสนุก เลยนึกถึงคำของนายห้างว่าเราไม่มีจุดขาย เลยคิดว่าจะเอาภาพของรำวงคนแรกกระแสน่าจะมา เพราะมันหายไปนาน เพราะรุ่นพ่อรุ่นแม่เราเคยมีความสุขกับแบบนี้ ไปหานายห้าง ผมมีคอนเซ็ปต์มานำเสนอก็เล่าฟัง เขาก็ถามว่าใครจะร้อง เราก็บอกเราไง ฝันมันค้างอยู่พี่สอยลงมาหน่อยได้เปล่า ถ้าผมทำพี่เจ๊งเอาผมไปยิงทิ้งที่ไหนก็ได้ เขาก็เอาดวงเรามาดู ตอนนั้นอายุ 48 เราก็แต่งตัวโบราณรำวง 6-7 วันก็กระแสมาเลย”
คณะรำวงมีกฎระเบียบ?
“ถ้าไม่สร้างทุกอย่างมันจะเละเทะหน้าเวที เหล้าบุหรี่อย่าเอาเข้ามา ไม่โป๊ เต้นต้องเรียบร้อย ให้เขาแยกแยะรำวงกับสตริงมันต่างกัน เพราะยุคโซเชี่ยลมันเร็ว เราไม่อยากให้ต่างชาติดูถูกดูแคลนคนไทย”
รักอาชีพนี้มาก ชาตินี้ไม่เลิกรำวง?
“เคยเกิดประกาศอยากเลิก แต่แฟนคลับขออย่าเลิก แม้แต่คนที่จะตายแล้วสั่งลูกหลานงานศพให้ผมไปร้องได้ไหม ยืนร้องบนเมรุเพลงเกี่ยวกับพ่อ”
กลับมาทำให้วงการรำวงดังอีกครั้ง?
“ภาคภูมิใจนะ สมัยก่อนรำวงเล็กๆ แต่ทุกวันนี้รำวงใหญ่ขึ้นมาก ไปทุกที่ที่มีคนจ้าง”
คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง อ๊อด โฟร์เอส
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5220433
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5220433
