โอ๋ ภัคจีรา บ้านล้มละลายต้องอยู่ห้องเช่าหลังคารั่ว เวทีประกวดพลิกชีวิต


ให้คะแนน


แชร์

เรียกว่าวงการบันเทิงเปลี่ยนชีวิตมากเลยทีเดียวสำหรับ โอ๋ ภัคจีรา อดีตนางร้ายชื่อดัง ที่ตอนนี้ได้ผันตัวเองมาเป็นพิธีกรเต็มตัวแล้ว อีกทั้งตอนนี้ โอ๋ ก็ได้มีชีวิตครอบครัวที่แฮปปี้สุดๆ มีลูกสาวน่ารักๆ 1 คน และยังเป็นสะใภ้ร้านทองชื่อดังอีกด้วย ล่าสุดในรายการแฉ ทางช่อง GMM25 โอ๋ ก็ได้เปิดใจเล่าถึงความลำบากของตัวเองในวัยเด็ก จากที่เมื่อก่อนบ้านมีโรงงานยาง แต่สุดท้ายล้มละลาย ต้องมาอยู่ห้องเช่าเล็กๆ และออกทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวเองตั้งแต่อายุ 15

โดย โอ๋ เล่าว่า ตนเองเป็นคนกรุงเทพฯ เติบโตมาแบบเด็กปกติทั่วไป เมื่อก่อนบ้านเป็นโรงงานทำยาง อยู่กับปู่ย่ามาตั้งแต่เด็กเลย แม่เป็นคนร้อยเอ็ด เข้ามาอยู่กับพ่อ แต่ในที่สุดโรงงานก็ล้มละลาย คือวันหนึ่งพ่อก็มาบอกว่า บ้านหลังนี้ต้องขายแล้ว เราต้องไปอยู่ที่ใหม่ จากบ้านหลังใหญ่โต มีพื้นที่เป็นไร่ๆ ก็ไปอยู่เป็นห้องที่ข้างล่างเป็นห้องเก็บเครื่องจักร แล้วข้างบนเราอาศัยนอน ตอนนั้นอายุ 15 กำลังเป็นสาว ก็ตกใจเหมือนกันที่ต้องมาอยู่แบบนี้ ทำตัวไม่ถูก

พ่อบอกต้องอยู่แบบนี้ คือตอนนั้นเราก็เศร้าแล้ว แต่ที่เศร้ากว่าคือพ่อไม่มีอาชีพ และแม่เป็นแม่บ้าน กำลังมีลูกหลงคือน้องคนสุดท้องมาเพิ่มอีก 1 คน แล้ววันหนึ่งจำได้ฝังใจเลย คือห้องเช่าที่อยู่กัน 5 คน ฝนตกแล้วน้ำรั่วลงมาทุกทิศทุกทางของหลังคาที่เป็นสังกะสี แล้วจะไปอยู่ไหน เพราะที่นอนเปียกหมดเลย

ของที่มีค่าก็คือ เครื่องใช้ไฟฟ้ากับตู้เย็น ก็เอากะละมังมาครอบ ส่วนตัวเองก็นั่งกางร่มให้แม่กับน้อง แล้ววันนั้นคือยืนคิดเลยว่าจะไปบ้านป้า แต่ตัวเองไม่มีเงินค่าแท็กซี่ ก็คิดว่าจะไปเอาที่บ้านป้า และคิดเลยว่าเราจะต้องหาอะไรทำ เราจะต้องมีเงิน ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร เพิ่งอายุ 15

เลยคิดว่าจะไปทำงานที่ห้าง เพราะต้องหาเงินเรียนหนังสือ เลยไปเดินห้างก่อนแล้วไปเห็นป้ายใหญ่ๆ เขียนว่า รับสมัครประกวดมิสฟิวเจอร์โมเดลคอนเทสต์ เลยตัดสินใจไปประกวด ในนั้นเขียนว่ารางวัลมูลค่ากว่าล้าน ในใจก็คิดว่าเงินรางวัลจะต้องเป็นล้านแน่ๆ ก็เลยตั้งใจไปประกวด เพราะก่อนหน้าเคยถ่ายงานวัยน่ารักมาบ้างแล้ว เคยเทสต์งานมาบ้างแล้ว

แล้วก็ได้ตำแหน่งจริงๆ ได้รางวัลเป็นโทรศัพท์ 1 เครื่อง และเงินรางวัลหลักหมื่น เลยเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการประกวด จากนั้นก็ได้รู้จักกับ พี่อุ๊บ วิริยะ เขามาชวนไปประกวดมิสมอเตอร์โชว์ และได้ตำแหน่ง หลังจากได้ก็มีงานมาตลอดเลย

สมัยที่เข้าวงการบันเทิงแรกๆ ยังไม่มีอะไรเลย ช่วงที่ไปถ่ายละครนั่งก็รถเมล์ ต่อเรือข้ามฝั่งไปถ่ายละคร และ โอ๋ เล่าต่อว่า ทางกองละครให้เล่นเป็นนางเอก แต่ต้องมีการเก็บตัว ไปเรียนการแสดงเพิ่ม แต่ตนเองรอไม่ได้ เพราะเดี๋ยวที่บ้านจะไม่มีอะไรกิน ต้องการเงิน มีหลายชีวิตที่ต้องดูแล เลยต้องไปเล่นบทนางร้าย เพราะไปแคสต์แล้วได้เล่นเลย

จากนั้นก็มีบทนางร้ายเข้ามาตลอด คิวทองเลย มีงานเข้ามาทุกวัน ตอนนั้นเช่าห้องอยู่เดือนละ 3,000 บาท และอยากได้รถเพราะต้องวิ่งงาน ตอนนี้มีบ้าน 2-3 หลังแล้ว ซื้อให้แม่กับน้องอยู่ ส่วนตัวเองอยู่บ้านของสามี

โอ๋ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาคือกำไรชีวิต มันลำบากจนไม่อยากย้อนกลับไปคิดถึงมันเลย และไม่อยากดราม่าด้วย เพราะกลัวคนว่า ซึ่งในวงการบันเทิงให้โอกาสตนเองเยอะมาก เพราะฉะนั้นรู้สึกว่ามันคือกำไรจริงๆ สอนอะไรเราหลายๆ อย่าง อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนชีวิตพวกเราอีกด้วย 

นอกจากนี้ โอ๋ ได้เล่าชีวิตความรักให้ฟังว่า เฟี้ยต เป็นคนมาจีบตนเองก่อน ซึ่งตอนนั้นมีคนเข้ามาจีบเยอะมาก แต่ชอบคนที่คุยกันถูกคอ แต่ก็อยากให้เลี้ยงดูเราได้ประมาณหนึ่ง เพราะฉะนั้นจะเลือกคนที่เราพอจะฝากฝังชีวิตเราได้ และ เฟี้ยต ก็เดินเข้ามา ก็คุยกันเป็นเพื่อน

แต่เขามีอะไรที่ไม่เหมือนเราเลย ซึ่งเราเป็นคนที่เฮฮา สนุก แต่เขาเป็นคนมีวินัย คิด ตั้งใจมากกว่าเรา ซึ่งเราก็มองว่าคนนี้แหละดี แล้วเขาก็บอกว่าเขาอยากแต่งงานด้วย

ซึ่งก็รอผ่านไป 3 ปี แต่เขายังไม่มาขอแต่งงาน เลยโทรไปคุยว่า เดี๋ยวจะรับละคร เธออยากแต่งงานรึเปล่า เขาก็บอกในโทรศัพท์ว่า แต่งสิ ตนเองก็ถามกลับว่าจริงเหรอ ยังไม่เห็นบอกแม่เลย เฟี้ยต ก็เลยโทรไปขอแม่ จากนั้นก็แต่งงานเลย.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1971031
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1971031