“เก้า สุภัสสรา” แย้มความลับเป็นเอฟซี “หมาก ปริญ” สบายใจ “พี่เชา” สายเฟรนด์ลี


ให้คะแนน


แชร์

“เคยเจอกันเรื่องคมแฝก เป็นพี่น้องกัน ไม่ได้เข้ากันเยอะขนาดนี้ ตอนนั้นเราใหม่กับช่อง 3 เจอกับพี่หมากเรื่องแรกก็แอบเกร็ง แต่เรื่องนี้ เข้าแบบเต็มๆ เพราะพี่หมากเป็นนักแสดงที่ทำงานมานาน เราเกรงใจ เค้าประสบการณ์เยอะ แอบคิดเค้าจะหยิ่งมั้ย จะหงุดหงิดเรามั้ย เพราะเราใหม่ แต่เค้าน่ารัก ไนซ์ ทุกคนแท็กทีมกันตลอด เพราะพี่ชุมีกฎไม่ให้ถือบทเข้า เซตมาหน้าฉากต้องพูดบทได้เลย ซึ่งหนูกับพี่หมากถ่ายวันละ 24 ซีน เยอะมาก ระหว่างเปลี่ยนชุดต้องคุย ท่องต่อบท ช่วยกันตลอด ได้คุยกันมากขึ้น เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีต่อกัน”

พี่หมากบอกเป็นเอฟซีเก้า

“ว้าย (หัวเราะ) จริงๆหนูเป็นเอฟซีพี่หมาก แต่ไม่กล้าบอกเค้า กลัวเค้าจะเกร็ง ต่างคนจะยิ่งเกร็งยิ่งเขิน เพราะเรื่องนี้มีเลิฟซีนกับพี่หมากเยอะ ในตอนท้ายๆเราต้องสนิทกัน เราต้องกล้าเล่น เราไม่อยากให้เค้าเกร็งไปกับเรา ต้องทำตัวเป็นมืออาชีพ ทั้งที่เราตื่นเต้นมาก”

หมากบอกเขินเรามาก

“หนูเขินเค้ามากเหมือนกัน (หัวเราะ) หนูไปไม่ถูกเลย เราก็สัมผัสได้ว่าเค้าไม่อยากให้เราเกร็งเค้า เค้าก็พยายามแกล้งให้เรารีแล็กซ์ เค้าคงเก็บความรู้สึกเกร็งของเค้าเหมือนกัน เราก็มีฟอร์มของเราว่าถ่ายกับพี่หมากชิลมาก”

หมากบอกก่อนเล่นฉากอะไรกับเก้าจะต้องไปซ้อมต่อบทกับคิมมาก่อน

“เค้ากลัวว่าไปถึงหน้าเซตแล้วจะไม่ได้ เพราะบทเราสองคนต่อปากต่อคำกัน เยอะมาก มันเครียดนะ เพราะหน้าเซตห้ามถือบท ทุกเช้ามาจะถามก่อนเลย จำบทได้เปล่า ถ้าใครลืมเอาบทมาต้องจ่ายสตางค์ แต่หนูไม่ลืม ”

เลิฟซีนเยอะแค่ไหน

“เยอะกว่าเรื่องอื่นๆ ไม่รู้ว่าตัดออกมาแล้วเป็นยังไง”

เครียดมั้ย

“ไม่เชิงเครียด เรียกว่าเกร็งมากกว่า บางทีเราต้องไปเริ่มก่อน จู่โจมก่อน หนูไม่รู้จะทำยังไง ยิ่งช่วงแรกที่เป็นพาร์ตเด็ก เราต้องไปจู่โจมเค้าก่อน ตอนนั้นยังไม่สนิทกันเท่าตอนหลังๆ เราจะเข้าไปยังไง ช่วงหลังก็เป็นอยู่ แต่น้อยลงค่ะ”

กับฉากเลิฟซีนเก้าจะแอบเล่าให้พี่เชา ชวลิตฟังบ้างมั้ย

“ไม่ค่อยได้เล่าค่ะ แต่จะบอกให้ฟัง ออกแนวบ่นว่ามีอีกแล้ว (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่เราจะเกร็งเวลาเข้าเลิฟซีน เราเกร็ง เพราะพี่เค้าไม่ใช่แฟนเรา เวลาทำงานหนูจะเกร็ง เพราะเราเป็นเอฟซีเค้า”

ทางพี่เชาว่าไงบ้าง ช่วยต่อบทมั้ย

“มีบ้าง แต่น้อย ส่วนมากจะมาต่อกับพี่ที่กอง หรือพี่หมากบ้าง หรืออ่านเอง นึกเอง หนูไม่ได้ขอให้ช่วย เป็นงานของเรา และบทดราม่าเยอะเราจะอาย ถ้าเล่นจริงแล้วร้องไห้จริงๆเวลาเล่น แล้วอารมณ์มันมาเลย เลยไม่ซ้อมดีกว่า หนูมาหมดเลย ขี้มูกไหลเข้าปาก แต่หนูไม่ชอบตัวเองเลยนะ หนูร้องไห้ไม่สวย อายมากเลย แต่คนจะบอกธรรมชาติมาก อย่างเรื่องส้วมก็ปล่อยออกไปแบบนั้นเลย”

มีทำยูทูบด้วย

“ไปทำยูทูบ ก็ไปเที่ยวด้วย รูปที่ถ่ายก็มาทำฟุตเทจ ทำปกยูทูบ ทำมาประมาณ 1 ปี ยอดคนติดตามประมาณ 6 แสน ไม่ค่อยได้โปรโมต คนในยูทูบ อินสตาแกรม คนละกลุ่มกัน ถ้าดาราไปทำยูทูบเบอร์ คนดูน้อยกว่าคนที่เป็นยูทูบเบอร์จริงๆ ไม่ได้ตามเพราะเราเป็นดารา หนูจะลงแค่สตอรี ไม่อยากทำให้ไอจีเป็นตลาดขายของ อยากให้เป็นไลฟ์สไตล์มากกว่า เป็นสิ่งที่เราอยากลงมากกว่า”

หลังๆมีความเซ็กซี่ขึ้นนะ

“เพราะเราไม่ได้ไปต่างประเทศ ที่ที่เราไปได้คือทะเลใกล้ที่สุด พัทยา หัวหิน ก็ทำคอนเทนต์ได้ง่ายที่สุด ปกติจะไปต่างประเทศบ่อยมาก ใส่ชุดว่ายน้ำ โดนแซว ตอนนี้คนชินแล้ว หนูไม่ได้ลงเซ็กซี่ หนูใส่วันพีซ ไม่ได้ใส่ทูพีซ บิกินี เราอายค่ะ ไม่ได้กลัวโดนแซว แต่เราเขินตัวเอง ไม่กล้าใส่”

ลุงโอเคมั้ย

“เค้าเป็นคนถ่ายรูปชุดว่ายน้ำไม่โป๊เท่าชุดทำงาน บางชุดที่ออกงานอาจจะเห็นเนินมากกว่าชุดว่ายน้ำอีก (หัวเราะ)”

เวลาคนชมเราเซ็กซี่รู้สึกยังไง

“ไม่เชิง positive มาก ไม่ได้มั่นใจมากขึ้น แอบมีความเขิน เราไปพักผ่อนใส่แบบนั้นถูกแล้ว เป็นไลฟ์สไตล์ที่เราไปทำมากกว่า ถ้าเราใส่แบบเว้า จะไม่ถ่ายลงไปแบบเห็นเว้า จะตัดออก เซฟตัวเอง”

เจอโรคจิตมั้ย

“ในทวิตเตอร์เจอเยอะมาก ดาราหลายคนโดน แต่เค้าไม่ได้มารุกรานเราในอินสตาแกรม ก็ปล่อยไป มันเหนือการควบคุม สิ่งที่เราทำได้ เราก็เซฟตัวเอง แต่จริงๆไม่ใช่หน้าที่เราที่ต้องมาเซฟตัวเอง แต่เป็นสิ่งที่พวกเค้าต้องมีจิตสำนึก”

ความรักเป็นยังไง

“เรื่อยๆค่ะ”

ใครหวานกว่ากัน

“ก็หวานพอๆกัน เราสองคนไม่ใช่คนโรแมนติกทั้งคู่ คุยกันว่าทำยังไงเราสองคนจะไม่เบื่อกัน ไม่น่าเบื่อ ถ้าเราคบกันยาวๆ”

วันเกิดพี่เชาเรามีเซอร์ไพรส์พี่เค้าด้วย

“จริงๆ ลืมวันเกิดเค้า แต่เพื่อนเตือนก็จัดทัน หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับวันเกิดตัวเอง เทศกาล ก็เป็นวันทั่วไป จะไม่ออกมาทำอะไรมาก เราอยากอินกับเทศกาล แต่เราเหนื่อยที่จะเจอคน เพราะเราทำงาน เราเจอคนเยอะอยู่แล้ว แต่พอเพื่อนมาสะกิดก็ทำ เดี๋ยวโดนงอน”

วันนั้นทำยังไง

“ก็นัดกินข้าว ไม่ได้มีของขวัญให้ ซื้อเค้กมาเซอร์ไพรส์”

เราเรียกเค้าว่าลุง คนก็เรียกตาม

“ในยูทูบเราตั้งเป็น playlist ว่าแล้วแต่ลุง เรียกมาตั้งแต่ตอนคุยกัน ด้วยความห่างของอายุ 8 ปี อาจจะไม่ได้ห่างกันมาก แต่เราก็ไม่เคยคุยกับใครอายุห่างขนาดนี้ เรียกแบบนี้เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เค้าใจดี ไม่ซีเรียส”

มีเวลาเจอกันบ่อยมั้ย

“มีค่ะ ช่วงที่ไม่ถ่ายละครจะพยายามเจอกันให้มากที่สุด การเจอกันบ่อยๆทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น เร็วขึ้น ทำความเข้าใจกันเร็วมากขึ้น แก้ปัญหากันมากขึ้น”

มีงอนทะเลาะกันบ้างมั้ย

“มีค่ะ แต่ไม่เยอะ ปกติเวลาเราไม่พอใจ เราจะคุยกันเลย พูดตรง หนูเป็นคนที่เก็บอะไรไม่ค่อยได้ อึดอัดต้องคุย ต้องบอก ไม่ชอบก็บอกเลย หรือทำแบบนี้ พูดแบบนี้แทนได้มั้ย อย่างน้อยเราก็บอกเค้าแล้ว ถ้าเค้าไม่ทำก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ต้องคิดต่อ”

ขี้หึงมั้ย

“เราสองคนไม่ได้เอาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มคนเยอะๆ เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วง หนูชัดเจน คนอื่นก็ไม่ได้มาเข้าใกล้เรา เค้าไม่ใช่หนุ่มเจ้าชู้ ขี้เล่น ไม่ได้โรแมนติก เค้าเป็นคนเฟรนด์ลี ไนซ์กับคนอื่น แต่ก็ไม่ได้มีผู้หญิง ไม่ไปสุงสิงกับใคร ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน หรือมาเจอหนูเลย เป็นคนรายงานตลอด แต่หนูไม่เลย ซึ่งเค้าบอกว่าไม่ดีนะ เราก็คิดว่าไม่ดีเหรอ ไม่มีคนมาจุกจิก จู้จี้ เค้าก็บอกว่าแบบนี้เรียกว่าไม่ใส่ใจ (หัวเราะ)”.

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1984789
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1984789