ซึ่งมีคอมเมนต์ที่เจ้าตัวอ่านแล้วรู้สึกเสียใจว่า “ทีหลังก็ไม่ต้องพาลูกไป ตัดปัญหาสงสารน้อง, ใช่ค่ะ ถ้าจะปกป้องลูกมากนัก ก็ไม่ต้องเอาลูกออกมาโชว์หรือออกสื่อ พี่ว่าม่ะ รำคาญตัวแม่จัง ดราม่าเยอะไปอ่ะพี่, ใช่ รำคาญ ถ้าปอไม่เสียก็คงไม่ได้เกิด, ไม่เอาไปไม่ได้ ต้องทำมาหากินพร้อมกับลูก, จริงค่ะ ก็ที่ดังก็เพราะการตายของพ่อไม่ใช่รึ..ลูกโตป่านนี้แล้วควรได้รับความจริงได้แล้ว..ก็หากินกับจุดตายของพ่อมาตลอดนิหน่า”

หลังจากที่ โบว์ แวนด้า โพสต์รูปภาพข้อความดังกล่าวก็ได้เขียนแคปชั่นอธิบายว่า “เข้าใจว่าโลกนี้เหรียญมี 2 ด้าน โลกโซเชียลว่าน่ากลัวแต่ไม่เทียบเท่า(แค่บางส่วน)…ขอโทษที่ข่าวของโบว์ทำให้หงุดหงิดใจนะคะ ทุกคนมีเหตุผลที่ทำ อย่างนึงที่ต้องเรียนรู้คือเคารพความคิดและการกระทำของตัวเองและผู้อื่น

ข้อความและตัวอักษรสะท้อนความคิดและกมลสันดานของแต่ละคนว่ามีจิตใต้สำนึกยังไง เติบโตมาแบบไหน ขอให้ทุกท่านที่กล่าวถึงโบว์ในสองรูปนี้ทำหน้าที่คุณพ่อคุณแม่ในอนาคตให้ดีที่สุดนะคะ และโบว์พร้อมที่จะรับฟังทุกคอมเม้นที่ติชมแบบมีสตินะคะ

ยินดีรับฟังและจะนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไปค่ะ #แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำมาหากินเลี้ยงลูกด้วยลำแข้งตัวเองค่ะ #ไม่จำเป็นต้องสร้างกระแสและสร้างตัวตนเพราะวันนี้ใช้1สมอง2มือในการทำงานในอาชีพตัวเองค่ะ”

และอีกข้อความว่า “#ขอนิดนึงนะคะสงบนิ่งมานานมากแล้ว ที่ผ่านมาโบว์และน้องมะลิมีพี่จ๋ารู้จักและได้รับความรู้สึกที่ดีและความเอ็นดูกับพี่จ๋าของน้องเพราะคุณพ่อน้อง และระลึกเสมอว่าทุกวันนี้เราได้โอกาสมากมายในชีวิตเพราะอะไร โบว์จึงตั้งใจทำหน้าที่แม่ หัวหน้าครอบครัว และเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน

และที่ผ่านมาโบว์ใช้ 1 สมอง 2 มือของโบว์ในการทำงานอาชีพหลักของโบว์มาตลอด ฝากบอกคนในโพสนะคะถ้ายังไม่รู้ โบว์เป็นเจ้าของสกินแคร์VEEDAA @veedaaofficial_thailand มาเกือบ4ปีแล้วค่ะ ส่วนงานในวงการเป็นงานที่ผู้ใหญ่หลายท่านเมตตาที่มอบให้เราและแต่ละงาน

เราก็ต้องใช้ความตั้งใจและความสามารถและความพยายาม และยังคงเลี้ยงชีพด้วยลำแข้งตัวเองต่อไปค่ะ ผู้หญิงด้วยกันให้กำลังใจกันเนอะ #ไม่ได้สร้างกระแสแต่แค่ไม่ได้อยู่นิ่งให้คนตรรกะความคิดป่วยทำร้ายความรู้สึกค่ะ”.