เต๋า ดราก้อนไฟว์ อธิษฐานทุกคืนอยากหน้าตาเหมือน ออย ธนา

เต๋า ดราก้อนไฟว์ อธิษฐานทุกคืนอยากหน้าตาเหมือน ออย ธนา

เต๋า ดราก้อนไฟว์ รับแอบปลื้ม ลิฟท์&ออย อยากหน้าหล่อเหมือน พี่ออย ด้วยแรงอธิษฐานทำหน้าเปลี่ยน ทุกวันนี้โดนทักเหมือน ออย ธนา

เป็นอดีตนักร้องยุค 90 ที่เชื่อว่าหลายคนคงยังจำกันได้ดี สำหรับ เต๋า ดราก้อนไฟว์ หรือ เต๋า อดิศร อรรถกฤษณ์ หนึ่งใน 5 สมาชิกวงบอยแบรนด์ในตำนานที่โด่งดังมากยุค 90 ซึ่งหลังจากออก 5 อัลบั้ม เหล่าสมาชิกต่างก็แยกย้ายมาเส้นทางของตัวเอง ส่วน หนุ่มเต๋า ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เล่าถึงการผันตัวจากนักร้องมาเป็นนักแสดง และเดินเข้าสู่เส้นทางการทำธุรกิจ พร้อมเผยรู้สึกสงสารตัวเองที่อยู่ในวงการมานานแต่ทุกคนกลับจำตัวเองไม่ได้

โดนทักผิดบ่อยไหม เต๋า ดราก้อนไฟว์ ว่าเป็น ออย ธนา
เต๋า อดิศร – ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์เลยครับ เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของผมคนจะเข้ามาทักเป็นพี่ออย 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวของผมเองเคยเดินสวนกับพี่ออย ผมก็รู้สึกว่าส่วนตัวเราคิดว่าไม่เหมือนไม่คล้าย แต่ว่าเราก็รู้สึกเหมือนว่าเหมือนเราเดินผ่านตัวเองนิดนึงๆครับ (ตอนที่มีคนมาทักว่าผมเป็นพี่ออย) ตอนแรกๆคือสงสารพี่เขามากเลยครับ แต่ตอนนี้สงสารตัวเองคนจำไม่ได้ว่าเราเป็นใคร

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

แต่ว่าในความเหมือนนี้จะเชื่อไม่เชื่อไม่รู้มันเกิดจากแรงอธิษฐาน
เต๋า อดิศร – คือมันจากสมัยที่เราเด็กๆ เราชอบวง Lift&Oil มากแล้วคือ พี่ออย เขาหล่อมาก ตอนนั้นผมคิดว่าอยากหน้าตาเหมือนเขา มันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เราก็มโนภาพไปว่าอยากหน้าตาเหมือน พี่ออย ทุกคืนทุกคืนแล้วหน้าตาเราก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่ามันเป็นพัฒนาการทางความคิดของเราหรือเปล่า

แต่ตอนที่ เต๋า อยู่ในวง ดราก้อนไฟว์ คือคนที่สาวๆ กรี๊ดมากที่สุดในวง
เต๋า อดิศร – เพราะว่าผมเป็นคนที่กรี๊ดน้อยที่สุด เพราะอย่างไปขึ้นคอนเสิร์ต หรือออกรายการ อะไรพวกนี้ผมจะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเพราะเราพูดไม่ทันเพื่อน แล้วกลัวตัวเองพูดไปแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วก็เลยอยู่เงียบๆ

ตอนนั้นไปร่วมกลุ่มเป็นบอยแบนด์กับเขาได้ยังไง
เต๋า อดิศร – ในวงคือ ผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับใรหรือไม่ได้รู้จักใครมาก่อนเลยนะครับ คือ ผมไปดูคอนเสิร์ต ไทรอัมพ์ส คิงดอม ที่สยาม แล้วพี่พิม ที่เขาอยู่ Teen Talk วันที่ผมไปดูฝนมันตกแล้วพอดีแมลงสาปมันมาขึ้นตัวผมแล้วผมเลย กรี๊ด เพราะว่ามันขึ้นมาแล้วมันไต่ขึ้นมาที่หน้าแล้ว พี่พิม เขาก็หันมาแล้วก็รู้สึกถูกชะตาเขาก็เลยขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ครับ แล้วก็ให้ผมเข้าไปที่ตึกแกรมมี่ แล้วพอดีวันนั้นเขามีประกวดยิ้มสวยแล้วเขาให้ผมลองไปประกวดดูแล้วเขาให้ผมร้องเพลง พอเข้าไปจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ เลยจะมีคณะกรรมการ คือ พี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง นั่งอยู่ด้วยแล้วก็ผู้ใหญ่หลายๆท่าน ก็บอกผมว่าอยากทำอะไรก็ทำเลยแล้วผมเป็นคนที่แบบว่าไม่เคยทำอะไรมาก่อนครับ อยู่บ้านออกจากบ้านน้อยมากคือเป็นเด็กที่ไม่ได้แสดงออกอะไรเลย ก็ไปยืนร้องเพลงของพี่ดัง พันกร แล้ว พี่เล็ก เขาชอบครับ หลังจากนั้นก็ได้เป็นนักร้องฝึกหัด 2 ปี แล้วก็ไปทำ ดราก้อนไฟว์ แล้วก็ได้เจอกับเพื่อนๆ คือทุกคนหล่อมากแล้ว คือ ทุกคนร้องก็เก่ง เต้นก็เก่ง เราฝึกเต้นมาสองปีร้องมาสองปี แต่พัฒนาการของผม คือ แย่มาก ซึ่งตอนนั้นคือ ท้อมาก

แต่ที่สุดก็ออกมาเป็น ดราก้อนไฟว์ ที่ทุกคนจดจำ และเมื่อถึงเวลาวงก็ยุบไปเป็นไปตามกาล
เต๋า อดิศร – วงเราอยู่มา 5 ปี ได้ออกอัลบั้มของตัวเอง 3 อัลบั้ม และไปออกอัลบั้มที่ไต้หวันหนึ่งอัลบั้ม

แต่หลังจากนั้นก็ไปเอาดีทางด้านการแสดง ผันตัวมายังไง
เต๋า อดิศร – มีพี่ๆเขาเห็นว่าเราน่าจะมีแววเขาก็มาขอผู้ใหญ่ว่าขอให้เราไปเล่นละครได้ไหม ตอนแรกผมก็ไม่กล้านะครับ เพราะคิดว่าเราไม่น่าจะเล่นได้ คือก็เล่นไม่ได้จริงๆ ฉายาของผมคือ เต๋า ร้อยเทกครับ เพราะถ้ามีคิวผมถ่ายทั้งวันถึงร้อยเทกครับ (หัวเราะ) เราจำบทได้นะครับ แต่เวลาที่เราพูดออกมามันจะแบบเหมือน โรบอท เพราะเหมือนว่ามันเกร็งเราไม่รู้ว่าเราจะใช้น้ำเสียงแบบไหน ทั้งท่าทางเราพูดไปเราจะต้องมองใครเราจะต้องทำอะไร เรามีความตื่นเต้นด้วย แล้วพี่นักแสดงในกองนั้นเขาก็มาช่วยสอนให้เรา แต่มาจนถึงวันนี้ เราสามารถเล่นได้แล้วครับ

ซึ่งตอนนี้แสดงได้ดีแล้ว แต่บทที่ได้รับ คือ ตัวร้าย
เต๋า อดิศร – คือ ตัวร้ายมัน ทำให้เราเข้าถึงการแสดงเป็นครั้งแรกว่าการแสดงเป็นแบบนี้นี่เอง พอหลังจากนั้นมาเราสามารถเล่นได้ทุกบทเลยครับ

เป็นนักร้อง นักแสดง และตอนนี้ยังเป็นเจ้าของธุรกิจด้วย
เต๋า อดิศร – เป็น มาสสาจ แอนด์ สปา อยู่ที่พัทยาครับ ที่มาเปิดที่นี่เพราะภรรยาครอบครัวของผมเป็นคนพัทยา ที่ย้ายไปอยู่ที่โน้นเพราะเราแต่งงานกันแล้วเราก็ตัดสินใจไปอยู่กับแม่ยายเขาซื้อบ้านอยู่ข้างๆเขา แล้วแม่ยายเราบอกว่าแม่ทำธุรกิจนวด ซึ่งเขาปูพื้นฐานมาโอเคแล้ว แล้วจังหวะพอดีที่มีห้างอยู่ห้างหนึ่งชื่อ รอยัลการ์เด้น เขาต้องการร้านสปาเข้าไปเปิด เขาก็ถามเราว่าสนใจไหมถ้าเราทำ คือ เขาก็ให้เราลงมือเลย พอเปิดแล้วมันโอเค เปิดเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็ประมาณปี 60 จากร้านเล็ก สองเดือนผมก็ขยายออกมาเป็นร้านใหญ่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แล้วก็เปิดเพิ่มอีกในที่เดียวกัน คือ เปิดอยู่สามร้าน เราก็เริ่มเรียนรู้ เริ่มขยายธุรกิจต่อ เริ่มขยายเดลิเวอรี่ต่อ คือ เราส่งคนไปนวดถึงที่เลย มาขยายตรงโซเชียลเพื่อให้คนไทยได้เห็น ชาวต่างชาติได้เห็น ชื่อร้าน ชีวารมย์ ตอนนี้มี 5 สาขาแล้วครับ ที่ รอยัลการ์เด้น , เซ็นทรัล , ซอย 9 ,พัทยาใต้ , พัทยาเหนือ ล่าสุดกำลังจะเปิดใกล้ๆกับ ทิฟฟานี่ ครับ

ช่วงนี้เป็นโควิด ร้านนวดก็ต้องปิดร้านนวดเสียหายเยอะไหม
เต๋า อดิศร – เสียหายเยอะไหม เพราะว่าเรามีหลายสาขาแล้วเราต้องดูแลเทคแคร์ลูกน้องเราเราก็ให้เงินเยียวยากันไปคนละห้าพันบาท ประมาณเกินหนึ่งร้อยคน ถ้าถามถึงรายได้จากที่เรามีเก็บกันทุกวันก็หยุดชะงักไปเลยเราก็ไม่รู้เลยว่ามันจะหยุดยาวนานขนาดไหน ตอนแรกที่เราคิดไว้ว่าหนึ่งปี แต่ไปๆ มาๆ ไม่ใช่แล้วเพราะระบบเศรษฐกิจคือพังทั้งโลกมันก็ต้องได้รับการฟื้นฟู ซึ่ง พัทยา คือ ได้รับผลกระทบมากๆ

แต่จากการที่เราไปอยู่พัทยา คือ ไม่ได้แค่งาน แต่ได้ลูกด้วย
เต๋า อดิศร – ชื่อน้องทะเลครับ ตอนนี้ 4 ขวบแล้วครับ กำลังซนได้เรื่องเลยครับ แล้วเขาก็เป็นคนที่กล้าแสดงออกมาก คือเขาจะเป็นเด็กที่ไม่ชอบนอนมากแล้วเขาก็หาข้ออ้างในการไม่นอน เราก็เคยทดสอบเขานะครับ ผมเคยทดสอบแอ๊กติ้งเขาด้วยนะครับว่าเขาได้ไหมให้เขาร้องไห้ ก็ร้องได้น้ำตาก็ไหล เราบอกให้หัวเราะต่อเลยเขาก็หัวเราะ

เห็นบอกว่าก่อนที่จะมีน้องทะเลคือบอกรักและกราบภรรยาทุกวัน
เต๋า อดิศร – คือก่อนหน้าจะมีลูก ก่อนหน้าที่จะแต่งงาน เราก็ใช้ชีวิตตัวติดกันประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์เลยครับ ไม่ว่าเขาหรือเราไปไหน ทำงาน เรียน หรือถ่ายรายการ เราก็จะไปด้วยกัน ผมก็จะขับรถไปส่งไปรับทำแบบนี้มาประมาณ 8 ปี แต่หลังจากมีน้องทะเล ผมก็อยากมีลูกคนที่สองแต่ซินแสทักเราว่าถ้าจะมีลูกแล้วดีต้องมีลูกปีเสือ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5972693
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5972693