เจ เจตริน เปิดความจริงอีกด้าน ดราม่าสนามเซิร์ฟสเกต หลังบางคนไม่ทำตามกฎ


ให้คะแนน


แชร์

ข่าวแนะนำ

“ยาวหน่อยแต่อ่านให้จบนะ เมื่อคืนนี้ มีน้องกลุ่มสเก็ตบอร์ดกลุ่มนึง ออกมาเล่นท่าผาดโผนนอกโซนที่ทางสนาม The promenade Surf Skate อนุญาตไว้ เราระบุชัดเจนว่า สเก็ตผาดโผนให้เล่นในช่องที่ 5-6 ผมคิดว่าน้องๆ อาจจะยังไม่ได้อ่านกฏให้ละเอียดหรือไม่ได้อ่านเลย พี่เจจึงตัดสินใจเดินไปอธิบายน้องว่า เรามีการโพสต์แจ้งกฎชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งไม่ใช่น้องๆ กลุ่มนี้เป็นรายแรกหรือชาวสเก็ตบอร์ดเท่านั้น

ชาวเซิร์ฟสเก็ต หรือ สเก็ตชนิดอื่นๆ ที่อาจมีการเผลอทำผิดกฏด้วยความไม่รู้ เราก็มีทีมไปแจ้งให้ทราบทุกครั้งด้วยความสุภาพและเป็นกันเอง จากในคลิปนี้จะเห็นว่าผมเองไม่ได้มีอารมณ์หรือพูดจาใส่อารมณ์แต่อย่างใด แต่ออกจะติดตลกด้วยซ้ำ เพราะว่ากฎคือกฎ เราตกลงขอใช้พื้นที่กับเจ้าของพื้นที่ไว้แบบนี้แล้ว มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ทุกกรณี

ผมก็คิดว่าน้องกลุ่มนี้จะเข้าใจเหมือนทุกคนที่ยังไม่ทราบกฎและก็ปฏิบัติตามด้วยความเช้าใจ แต่จากที่สนทนาแล้วก็ดูเหมือนว่าน้องท่านนี้น่าจะไม่พอใจ ตามที่เห็นในคลิป แต่พี่เจเองก็ทำอะไรไม่ได้ ก็แจ้งน้องตามตรงว่า “พี่เจไม่ใช่เจ้าของสถานที่ ทางห้างสั่งมา เราต้องเล่นไม่ผิดกฏ เดี๋ยวเค้าไม่ให้เล่น ซวยอีก ไม่มีคำว่าแต่ …(ยิ้มขำ) ทางห้างเค้าสั่งมาผมไม่เกี่ยว เข้าใจพี่นะ น้องเสื้อขาวคนที่พี่เจเดินไปบอกคนแรก ดูน่ารักมาก เหมือนจะพยายามฟังและมองว่าให้ไปเล่นทีจุดใด และตอบว่าได้ครับ

แต่ มองหน้าน้องเจ้าของโพสต์ ดูเหมือนออกอาการไม่พอใจกฏ (ส่ายหน้า) ผมก็บอกน้องเค้าว่า อย่าอารมณ์เสียซิ (ยิ้มให้เพื่อว่าเค้าจะหายตึง และแล้ว…น้องพูดว่า มันแบ่งแยกเกินไป

พี่เจเลยหันกลับไปอธิบายใหม่ตั้งแต่ต้นเรื่องกฏและการตกลงเรื่องขอสถานที่เจ้าของเค้ามาเล่น เราจะต้องทำตามข้อตกลงจริงๆ มันจะไม่มีการแบ่งแยก แต่ต้องยอมรับว่า จำนวนควรเล่นเสิร์ฟสเก็ตมีจำนวนมาก และสนามเรามี เด็กๆ เล็กๆ มีมือใหม่หัดไถ จำนวนมาก เราเน้นให้คนมาฝึกเล่นกัน

ส่วนสเก็ตบอร์ดก็รู้กันอยู่ว่า การเล่นท่ามันมีโอกาสพลาดได้บ่อยๆ โชคดีไปถ้าจับบอร์ดทัน ถ้าจับไม่ทันบอร์ดก็พุ่งแรง อาจเป็นอันตราย ซึ่งสายสเก็ตบอร์ดก็รู้กันดีอยู่แล้ว ซึ่งมาถึงตอนนี้ยังไม่มีเหตุการณ์บาดเจ็บอะไรเพราะเราแบ่งโซนชัดเจน แต่ถ้าไม่มีกฏ เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือแม่แต่กฏต่างๆในโซนอื่นที่ตั้งไว้

หลังจากที่สนามปิด ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านได้ไม่นาน น้องท่านนี้ได้โพสต์เหตุการณ์ในคืนนี้ในเฟซส่วนตัว (ซึ่งผมจะโพสต์ในคอมเมนท์ข้างล่าง) มีข้อความเหมือนการสนทนา แค่บางประโยค ลักษณะที่อ่านแล้ว จะทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึกไม่ดีต่อผม เช่นคำว่า ไม่มีแต่… (สั้นๆ เหมือนกระแทกกระทั้น แล้วไม่ฟัง)

อ่านแล้วมันไม่เหมือนที่ผมพูดใส่ อารมณ์ รวมถึงภาพถ่ายที่ถ่ายให้แสงมืดมาก ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลัง 22:15 น. ทางห้างจะเริ่มปิดไฟลงครึ่งนึงทั้งสนาม เพื่อให้คนเตรียมเก็บของกลับบ้าน จึงทำให้มีกลุ่มนักสเก็ตบอร์ดมาต่อว่าด่าทอผมสารพัด (ผมไม่ได้อ่านนะ น้องๆ นักสเก็ตบอร์ดที่เข้าใจผมเล่ามา) ซึ่งดูคลิปจบจะเข้าใจผม คนที่มีอารมณ์ไม่ใช่ผมแน่ๆ

มันทำให้ผมรู้สึก เสียใจและท้อใจนะ เพราะที่ผมทำทั้งหมดนี้ ไปขอห้างใหญ่โต อนุญาตให้เราได้ออกกำลังกายกัน เราพยายามสร้างมาตราฐานให้สนามมันมีกฏ ระเบียบปลอดภัย ตามที่เราได้ตกลงกับทางเจ้าของสถานที่ ผมพยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ผมไม่ได้เงินค่าจ้าง ผมไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ เลย ที่ผ่านมามีแต่รอยยิ้มและคำขอบคุณจากทุกคนที่เจอกับผมบนสนามนั้น ผมรู้สึกดีใจนะ นั่นคือกำไรของผม

แต่วันนี้ ทำไมผมกลับโดนต่อว่าจากคนที่ยังไม่รู้ความจริงคืออะไรเลย ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยรังเกียจเด็กสเก็ตบอร์ดเลย ลูกชายทั้ง 3 คนของผมก็เด็กสเก็ตบอร์ด น้องๆ ของผมสายสเก็ตบอร์ดก็เยอะมาก เป็นครูสอนผมก็เยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ไม่ถือโทษโกรธอะไรที่น้องไม่พอใจส่วนตัว และไปโพสต์ล่อเป้าแบบนั้น ผมชินละ

และผมจะขอสัญญาว่า ผมพยายามจะทำให้สถานที่นี้ เป็นที่ภาคภูมิใจของพวกเราชาวรามอินทรา ผู้รักกีฬาสเก็ตทุกประเภท ผมจะพัฒนา สร้าง ramp สร้างความสะดวกสบายเพิ่มเติมให้สนุกและมีความสุขร่วมกันเหมือนที่เป็นมาตั้งแต่วันแรก ต่อจากนี้ถ้าเจอหน้ากัน เดินเข้ามาทักทาย กอดกันให้กำลังใจผมหน่อยละกันนะครับ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2045019
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2045019