“ไอซ์ ปรีชญา” สเตตัสโสดแล้วเหงาแต่ไม่รีบหาใคร โฟกัสเรื่องงานทำชีวิตให้บาลานซ์


ให้คะแนน


แชร์

17 เม.ย. 2564 07:01 น.

ออกตัวไม่ถนัดแนวดราม่าแต่ต้องถ่ายทอดชีวิตคู่หวานอมขมกลืนที่ทำเอาแฟนๆสงสาร “มนสิชา” จับใจ สำหรับ ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นางเอกสาวมากความสามารถ จากละครเรื่อง มายาเสน่หา ทางช่อง 3 ประกบคู่เคน-ภูภูมิ เรื่องราวกำลังสนุกเข้มข้นสุดๆ เลยต้องชวนไอซ์มาเล่าเบื้องหน้า เบื้องหลังการทำงานกว่าจะผ่านไปได้ไม่ง่าย พร้อมล้วงลึกสถานะหัวใจมีหนุ่มคนไหน “ดามใจ” แล้วหรือยัง ใน “คนดังนั่งคุย”

เล่นเรื่องนี้บทดราม่าเยอะมาก

ข่าวแนะนำ

“ใช่ค่ะ มายาเสน่หา ตั้งแต่ได้อ่านบทอยากเล่นเลยเพราะเป็นอะไรที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน ดราม่าเนี่ยไอซ์ไม่ถนัดอยู่แล้ว ไอซ์จะถนัดคอมเมดี้มากกว่า แต่ว่าอ่านบทดราม่าค่อนข้างเยอะ เป็นบทค่อนข้างหนัก ท้าทายพอสมควรเลยอยากลองเล่นดู” พอเล่นจริงๆยากกว่าที่คิดไหม “ยากมากค่ะ คือยากในเรื่องของการแสดงทั้งหมดเลย เหมือนกับว่าไม่สามารถเอาคอมเมดี้มาประยุกต์ใช้ได้เลย ดราม่าก็คือการเล่นทั้งดราม่าเลย ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพหรืออินเนอร์ข้างใน กายภาพข้างใน เช่น การมอง การเดิน การพูด น้ำเสียงมันจะมีจังหวะของเค้า ไอซ์จะหลุดไปทางคอมเมดี้ตลอด พี่ฟิวส์ ผู้กำกับจะเรียก ไอซ์ๆ มันตลกไปให้ดึงดราม่าหน่อย ไอซ์ก็ได้เรียนรู้ อ่อ เล่นแบบนี้นะ เหมือนเราได้ประสบการณ์ด้วย เป็นเรื่องแรกที่ดราม่าที่สุดเลย ตั้งแต่เล่นมา เรื่องนี้ดราม่าหนักด้วย ไม่ได้เริ่มศูนย์ถึงร้อยแต่มาสิบแล้วไปร้อยเลย เพราะฉะนั้นการสตาร์ตไม่ได้สตาร์ตง่าย กระโดดไปที่สิบเลย เป็นชีวิตคู่ แต่งงานกันมา 7 ปี ไม่ใช่ลักษณะคู่รักแบบข้าวใหม่ปลามัน มันเหมือนกับว่าเราคุ้นเคยมากๆ แต่ความรักเริ่มจืดจาง เริ่มมีความเย็นชา มีความชินเลยมีความยาก อีกอย่างเราไม่เคยมีประสบการณ์ด้วยของการแต่งงานหรือเรื่องของครอบครัวที่อยู่ด้วยกันมา 7 ปี หาเรฟเฟอเรนซ์ยาก หาอ้างอิงยากจะไปประมาณไหนก็คุยกับพี่ฟิวส์เยอะพอสมควร”

ตอนพี่ฟิวส์สะกิดตอนนั้นทำให้เราเกร็งขนาดไหน

“เรียกว่าเครียดเลยแล้วกัน (หัวเราะ) เราไม่รู้ตัวพาบทสนทนาไปทางคอมเมดี้ เพราะฉะนั้นเราเล่นตามธรรมชาติของเรา ไม่คิดว่าคอมเมดี้ พอพี่ฟิวส์บอกไอซ์ตลกไปซีนนี้ ซึ่งไอซ์ก็เลยบอกว่าไอซ์ไม่รู้ตัวเลย ต้องเป็นยังไงประมาณไหน พี่ฟิวส์ต้องมาอธิบายมนสิชาเป็นแบบนี้ อินเนอร์มีปมหลายๆอย่างในตัว และเป็นคนเก็บๆไว้เยอะ เล่นยากนิดนึง” ใช้เวลานานไหมกว่าเราจะปรับตัวจูนเข้าตัวละครได้ “ใช้เวลาพอสมควรเลย น่าจะหลายคิวเลยค่ะ (ยิ้ม)” เริ่มอินเป็นตัวละครมนสิชาตอนไหนเหรอ “ไอซ์เล่นกับ เคน วาววา ทั้งคู่ถนัดเป็นทางของเขา เค้าไม่ค่อยมีปัญหาแต่เค้าบอกไอซ์ว่ายากสำหรับเค้าเหมือนกัน คือเราต้องคุยกับเคนค่อนข้างเยอะเพราะเราจะต้องรู้จักเค้าให้ลึกหน่อย ให้สนิทกันมากขึ้นเวลาถ่ายทำงานค่อนข้างโฟลว์ ลื่นไหลกันมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับเคนเลยค่ะ”

มีการทำลายกำแพงต่อกันยังไงเพราะในเรื่องเราเล่นเป็นสามีภรรยากันด้วย

“เวิร์กช็อปค่ะ เวลาที่อยู่ในกองช่วงพักกองพี่ฟิวส์ก็จะบอกมานี่ๆ นั่งด้วยกัน คุยกันให้มากขึ้น เวลาพักอยู่ด้วยกันมากขึ้นจะได้เรียนรู้กันเยอะขึ้น เราจะได้สนิทกันมากขึ้นจะได้ไม่มีกำแพงต่อกัน” บุคลิกเป็นคนนิ่งๆ ทั้งคู่อยากรู้เลยใครชวนคุยก่อน “จริงๆคุยไม่เก่งทั้งคู่ เคนเป็นคนได้หมดจะเป็นคนกินข้าวเร็ว เสร็จปุ๊บไปทำอะไรของเค้า เข้าห้องน้ำ แปรงฟันซึ่งเรากินช้า มีบางช่วงแรกๆที่ไม่มีสนิทกันเท่าไหร่ หลังๆเราได้ไปเวิร์กช็อป กับแอ็กติ้งโค้ช เราเริ่มรู้แล้วว่า เราไม่คุยกันเลยจะเล่นด้วยกันยาก หลังจากนั้นต้องคุยกันเราชอบอะไร เธอชอบอันนี้ มีการถามกันเกิดขึ้นในกองมากขึ้น”

ได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่ แอน-สิเรียม และแหม่ม-คัทลียาด้วย เป็นยังไงบ้าง

“พี่แอนเล่นเป็นคุณแม่ไอซ์ พี่แหม่มเล่นเป็นแม่ของเคน รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับทั้งสองถือว่าโชคดีได้เรียนรู้วิธีการทำงานของเค้าด้วย เค้ามืออาชีพอยู่แล้ว เล่นละครมาเยอะ เล่นหนัง เราได้ศึกษาวิธีการทำงานของเค้าด้วย สบายใจที่ได้ร่วมงานกัน คือสบายใจและดีใจด้วยค่ะเพราะว่าเหมือนเราเล่นกับคนเก่งๆ เราจะไม่กังวลอะไร จะกังวลเรื่องของตัวเองมากกว่า มาโฟกัสที่เรา จะต้องเล่นได้นะ เล่นไม่ผิด บทเราจะต้องจำให้ได้ เพราะแม่ๆเค้าเก่งกันอยู่แล้ว พี่ฟิวส์บอกว่าพี่แหม่มเกิดที่ทองหล่อ พี่แอนเป็นคนรวยแบบต่างจังหวัด เค้าจะจูนเร็วมากเลย วิธีการแสดงออกค่อนข้างต่างกัน เป็นคุณนายเหมือนกัน วิธีการพูด การฉะกัน ผู้ดีหน่อย พูดจาเชือดเฉือนนิ่มๆ มาแบบก็จุก”

ด้วยความเป็นบทดราม่าไอซ์มีเก็บความเป็นมนสิชากลับบ้านไปด้วยไหม

“มีค่ะเพราะช่วงนั้นไอซ์ถ่ายละคร 2 เรื่อง ถ่ายมายาก่อนและรักนิรันดร์จันทรา กับพี่เคน-ธีรเดช แนวเป็นโรแมนติกคอมเมดี้แฟนตาซี มายาเสน่หาแนวโรแมนติก-ดราม่า เพราะฉะนั้นเวลาไอซ์ไปกองรักนิรันดร์ อารมณ์จะมีดิ่งไปบ้างเพราะเราชินคาแรกเตอร์มนสิชา พอเราไปเล่นคอมเมดี้ปุ๊บเป็นซีนง่ายมากเดินจับมือพี่เคนธรรมดา แต่ไม่ผ่านสักทีทำไมนะ ติดที่อะไร สักพักแอ็กติ้งโค้ชวิ่งมาหา บอกว่าเธอ เขย่าตัว วันนี้ไม่ใช่มนสิชา วันนี้ต้องจันทร์ๆ ไอซ์ต้องจูน” ฟีดแบ็กละครเป็นยังไงบ้าง “ค่อนข้างดีนะคะ แฟนคลับ เพื่อนๆ มาบอกว่าชอบเพราะไม่เคยเห็นไอซ์ในลุคแบบนี้ ได้เห็นอีกมุมนึงของไอซ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เล่นดราม่า เพื่อนจะบอกเธอมีมุมเหวี่ยงวีนเหมือนกันเนอะ ทำได้เหมือนกัน”

ช่วงนี้ไอซ์ยังทำงาน 7 วันอยู่มั้ย

“ค่ะ ช่วงก่อนทำงาน 7 วันแต่ตอนนี้มีวันว่างให้ได้หยุดแล้ว” เป็นเพราะสเตตัสโสดเลยสามารถทุ่มเททำงาน 7 วันรวด “ไม่เกี่ยวค่ะ ถ้าไอซ์อยากทำงานก็รับ ไอซ์เป็นคนที่อยู่กับบ้านบางทีก็จะนอยด์เพราะเราชินกับการทำงานทุกวัน บางทีเราไม่รู้ทำอะไรเวลาอยู่บ้าน เหมือนกับว่าหยุดอยู่บ้านนอนเฉยๆ แต่บางทีเราทำงาน 7 วันก็เหนื่อย อยากหยุดจังเลยก็มี อยากพักพอได้หยุดจริงๆ ไม่รู้ทำอะไรดี ชินกับการทำงาน สนุกดีค่ะเวลาทำงานเราได้เจอคนเยอะขึ้น ได้ประสบการณ์เยอะขึ้น เราได้เติบโตขึ้น ไอซ์รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีทำงานร่วมกับหลายๆคนที่เราไม่เคยร่วมงานมาก่อน” ล่าสุดเห็นไอซ์ลองพากย์ซีรีส์ Mr.Queen ด้วย “ไม่เคยเลยค่ะ นี่คือครั้งแรกในชีวิต พี่ใหม่-รัชดา (ผู้จัดการส่วนตัว) อยากให้ลองทำดูก็เป็นอีกศาสตร์นึงในการแสดง ศิลปะทางด้านเสียง พอได้ลองพากย์ก็รู้สึกว่าสนุกดี ไอซ์ชอบนะ ไอซ์ชอบหมดเลยอะไรที่เป็นศิลปะ ร้องเต้นรู้สึกโอเคและดีใจที่ได้โอกาสไปพากย์”

ช่วงปีที่แล้วไอซ์จะวนเวียนเข้า รพ.บ่อยมาก

“ใช่ค่ะ ที่ไอซ์เข้า รพ. เป็นลำไส้อักเสบ บวกกับลามไปถึงไส้ติ่งอักเสบและรั่วด้วยเพราะฉะนั้นเหมือนการติดเชื้อทั้งร่างกายเลย คือน้ำในไส้ติ่งมันรั่วออกมา ก็ค่อนข้างหนักมากๆเหมือนกัน ต้องผ่าตัดด่วน” ตอนนั้นกลัวไหมเพราะคำว่าผ่าตัดมันดูเรื่องใหญ่ “กลัวนิดนึงเพราะไอซ์ไม่เคยเป็นอะไรขนาดนี้ แค่ปวดท้องธรรมดา อาหารเป็นพิษแต่อันนี้ไอซ์ก็ไม่รู้เพราะจริงๆแล้วช่วงนั้นต้องมีถ่ายละครอีกเรื่องด้วย ปวดอาทิตย์ตอนเย็นๆไอซ์ไปหาคุณหมอเลย บอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ ไอซ์ยังโอเคไม่เท่าไหร่ แต่สักพักเริ่มปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ ลามไปอยู่ข้างขวา หมอบอกกดท้องดู ไอซ์เจ็บมาก เค้าบอกไม่ได้แล้วต้องทำทีซีสแกนเพราะอาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ สรุปก็เป็นจริงๆ เลยต้องผ่าเพราะมันรั่วแล้ว ให้มอร์ฟีนมากจนเราไม่รู้สึกว่ามันหาย ยังปวดอยู่” ณ ตอนนี้สุขภาพเป็นยังไงบ้าง กลับมาปกติเหมือนเดิมหรือยัง “ต้องบาลานซ์ชีวิต ช่วงนั้นก็หยุดไปนานเลยค่ะ รับงานไม่ได้คือปวดมาก แผลช่องท้องใช้เวลานานในการรักษา แต่ตอนนี้หายดีแล้ว ตอนนี้กลับมาทำงานได้”

ความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

“ไม่มีค่ะ” โสดมานานขนาดไหน “โหย นานมาก จนลืมไปแล้วว่าโสดนานขนาดไหน ลืมแล้วค่ะเพราะเราโฟกัสแต่งาน จนลืมคิดถึงเรื่องจะมีใครอะไรแบบนี้” พอผ่านมาจนตอนนี้เรื่องแต่งงานยังเป็นความฝันตามประสาสาวโสดบ้างไหม “เรื่องแต่งงานไกลสำหรับไอซ์เลยค่ะ ด้วยความที่ว่าเราทำงานและยังเอนจอยกับการทำงานซึ่งคนอื่นๆจะแต่งงานกัน อย่างเพื่อนไอซ์ ก็ลูก 3 แล้ว แต่ว่าสำหรับไอซ์เอง ไอซ์ชอบที่จะทำงานไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดแต่งงานเราจะมีภาระ ที่จะต้องดูแลคิดถึงเรื่องลูก เลยเป็นเรื่องไกลตัว ถึงแม้ว่าอายุจะเข้าเลข 3 แล้วก็ตามแต่รู้สึกว่าตัวเองอยากทำงานมากกว่า” ตอนนี้หนุ่มๆมีเข้ามามั้ย “มีเข้ามาปกติค่ะ จะบอกว่าไม่มีก็โกหกนะ ถามว่ามีเข้ามามั้ยมีค่ะ เพียงแต่ว่าเราอยากโฟกัสเรื่องงาน ก็เลยคิดว่าเราทำงานก่อน ถ้ามีคนที่ใช่จริงๆ เราก็ไม่ติดอะไร เราพร้อมที่จะคบ ตอนนี้เราแค่รู้สึกว่าคนที่เข้ามายังไม่ถึงเวลาที่จะคบกัน” ไม่โหยหาจะต้องมีแฟนมาเติมเต็มเพราะบางคนอยู่คนเดียวจะเหงา “เหงาก็มี เป็นเรื่องปกติแต่ว่าด้วยความที่ว่าเพื่อนไอซ์เป็นคนขี้เหงาเหมือนกันก็เลยคุยกับเพื่อนบ่อยมากก็เลยกลายเป็นสนิทกับเพื่อน คุยกับเพื่อนไปซะส่วนใหญ่ ไอซ์ทำงานไม่คิดเรื่องนี้เลย” หลายคนลุ้นไอซ์น่าจะได้แต่งก่อนใครๆ “ไม่หรอก เรื่องหาคู่หรือการมีแฟนไอซ์ว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกำหนดได้ ใครที่ เข้ามาในชีวิตเราที่เรารู้สึกว่าใช่เราพร้อมที่จะคบ แต่ถ้า ไม่มี ไอซ์ไม่ได้รู้สึกว่าต้องรีบร้อนหา ต้องไปไขว่คว้าเค้า เพียงแต่ว่าช่วงนี้เราอยากทำงานเท่านั้นเองค่ะ”.

เรื่อง : วรรณี ห่อวโนทยาน

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2070309
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2070309