หนิง นิรุตติ์ แชร์ประสบการณ์หลังฉีดวัคซีน ไม่เคยลังเล ไม่กลัวตาย มั่นใจในวัคซีน

หนิง นิรุตติ์ แชร์ประสบการณ์ หลังฉีดวัคซีนเข็มแรก ไม่เคยลังเล ไม่กลัวตาย มั่นใจในวัคซีน เชิญชวนคนไทยฉีด ปลอดภัยแน่นอน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา นักแสดงรุ่นใหญ่ วัย 74 ปี ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นเข็มแรก ด้วยวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca)​ จากการลงทะเบียน “หมอพร้อม” ซึ่งได้รับคิวเข้าฉีดตามการลงทะเบียนปกติ และเข้ารับการฉีดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลบำราศนราดูร

ความรู้สึกหลังฉีดวัคซีนเข็มแรก เป็นอย่างไรบ้าง? “วันนี้(14พ.ค.)เรียกว่าเลย 48 ชม. มาแล้วนะครับ ผมเป็นปกติตั้งแต่ตื่นเช้ามาเลย วันแรกเท่านั้นเองที่มีอาการภายใน 24 ชม. อาการที่ว่าคือ ตั้งแต่สองโมงครึ่งที่ผมฉีดเสร็จ พัก 30 นาทีดูอาการ แล้วทำงานต่อที่โรงพยาบาลจนกระทั่งถึงห้าโมงเย็นได้ออกมา ผมก็ไปทานข้าวที่บ้านเพื่อน ซึ่งผมหิวมากเลย ผมไม่รู้ว่าเป็นอาการข้างเคียงหรือเปล่านะครับ หิวมากๆ แล้วก็ทานมากเลยครับ กลับมาถึงบ้าน 4 ทุ่มครึ่ง ก็ยังไม่มีอาการอะไร จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนผมเข้านอน เพราะว่าผมจะคอยดูผลข้างเคียงของตัวเองอยู่เรื่อยๆ คอยติดตามร่างกายอยู่ตลอด พอหลับไปได้สัก 2 ชม.กว่า เวลา 02.55 น. ผมรู้สึกมีอาการไข้อ่อนๆ แล้วมันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเอง ผมห่มผ้านอนเปิดแอร์ พอเอาผ้าห่มออกลุกขึ้น ผมหนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว พอตื่นแล้วมันไม่อยากนอน ผมก็ทำตามอย่างที่เราศึกษาก่อนไปฉีดว่าถ้ามีอาการไข้อ่อนๆ ให้ทานยาแก้ไข้แค่ 1 เม็ดนะครับ ปกติเวลาผมเป็นไข้ปวดศรีษะผมจะทาน 2 เม็ด ทุก4ชม. แต่ครั้งนี้แค่ 1 เม็ดนะครับตามที่คุณหมอแนะนำ ทุก 6 ชม. ผมก็เริ่มทานตอน 02.55 น. ไป 1เม็ด ก็คิดว่ามันมีอาการข้างเคียงแล้วเพราะมันหนาวมาก เหมือนอยากจะเอาเสื้อโค้ทมาใส่นอนเลยอย่างนั้น แล้วผมก็นั่งพักสักพักหนึ่งเฝ้าดูร่างกายตัวเอง ผ่านไปสักตีสามครึ่ง ผมก็พยายามจะกลับไปนอน มันก็เหมือนไม่อยากทำให้เราหลับ มันไม่ได้แพ้ยามีอาการง่วงนอน มันนอนไม่หลับ กลิ้งไปกลิ้งมาจนประมาณตี4กว่า ก็ไม่รู้สึกตัวหลับไปเองเลย แต่ก็ดีที่ตื่นไงครับ ตื่นมาประมาณ 10 โมงกว่า ก็มีอาการไข้อ่อนๆ ผมก็พยายามยังไม่ทานยาต่อ ก็รอดูอาการไปจนกระทั่งครบ 24 ชม. ประมาณ 4 โมงเย็นผมก็ทานไปอีกเม็ดหนึ่ง เรียกว่ามันเลย 6 ชม.มามากแล้ว ก็ไม่มีอาการอะไรอีกเลย ตอนเย็นเมื่อวานก็ปกติ อาการไข้หายไป”

“มีไข้แค่วันแรกเท่านั้นเอง แต่ว่าอย่าเอาผมเป็นตัวตั้งนะครับ หลายคนอาจจะเป็นหลายวัน แต่ผมพูดถึงส่วนตัวผมเองคนเดียวนะครับว่าผมมีอาการแบบนี้ ก็ตอบไปตามจริง”

ก่อนตัดสินใจไปฉีดวัคซีน มีความกังวลกับกระแสข่าวผลข้างเคียงรุนแรงหลังฉีดไหม? “ผมอยากจะฉีดตั้งแต่เขามีวัคซีนมาแล้วครับ ผมไม่ได้กลัว แต่ผมกลัวจะไปติดคนอื่น ผมไม่ได้กลัวจะตาย แต่ถ้าหากว่าผมตายมันก็จะเป็นเคสที่นำไปศึกษาได้ว่าผมตายจากโควิดหรือว่าผมตายจากตัวผมเองมันมีจุดไม่ดีตรงไหนในร่างกาย จะได้ชี้ชัดออกมา”

“ผมอยากจะพูดนอกประเด็นนิดนึง ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ มีสถานการณ์ มีวิกฤตการณ์เกิดขึ้น ไม่มีหรอกครับสักครั้งหนึ่งที่จะไม่เกิดการสูญเสีย ต้องมีสูญเสียมากหรือน้อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าหากว่าเราจะต้องสูญเสียด้วยเราคนเดียวเพื่อที่จะนำไปศึกษาต่อได้ ผมก็ยินดีนะ เพราะฉะนั้นผมไม่มีความลังเลที่จะฉีด พอเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่มีอายุสูงกว่า 60 ปี เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ผมก็รีบลงทะเบียนเลย ก็ได้ฉีดวันที่ 12 พ.ค.”

มีโรคประจำตัวไหม? “หมอก็ถามก่อนฉีด ถ้าคุณเป็นโรคอะไรก็ต้องบอกความจริง คุณไม่สบายเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง คุณหมอจะเป็นผู้ตัดสินใจอาจจะไม่ฉีดให้คุณ หรือคุณหมอเห็นแล้วว่าฉีดไปแล้วมันไม่เป็นอันตรายก็จะฉีดให้ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เราลงทะเบียนแล้วขึ้นไปหมอจะฉีดให้ทันทีเลย ไม่ใช่นะครับ ก็ต้องสอบประวัติการรักษาเราก่อน ผมมีอยู่โรคเดียว โรคประจำตัวตั้งแต่เด็กแล้ว ก็คือภูมิแพ้ครับ ผมก็แจ้งคุณหมอไปว่ามีภูมิแพ้ตั้งแต่เด็กแล้ว เป็นภูมิแพ้อากาศ คุณหมอก็บอกไม่มีอะไรกังวล แต่ถ้าหากว่าจะให้มั่นใจ นำประวัติการรักษาสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรงกว่าผมเอาติดไปด้วยก็ดี แต่ส่วนมากแล้วจะฉีดให้ครับ ไม่มีปัญหาอะไรครับ”

เตรียมความพร้อมร่างกายก่อนไปฉีดอย่างไร? “ผมเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ปีที่แล้วแล้วครับ ผมกักตัวอยู่ที่บ้าน คุณหมอประจำตัวที่ดูแลผม 4 ปีมาแล้ว เขาก็เริ่มให้ผมทานวิตามินซีตั้งแต่นั้นเลย และมีตัวอื่นที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แล้ว ผมทานตั้งแต่เมษา เพราะเราเริ่มปิดเมืองปิดประเทศกันประมาณกลางเดือนมีนาคม เขาก็นำยาตัวนี้เข้ามาส่งมาให้ผมทาน ผมทานตั้งแต่เมษาจนมาถึงวันนี้ นั่นคือการเตรียมตัวแบบที่เราไม่รู้ แต่หมอที่ดูแลผมก็ให้ผมมาทาน อย่างน้อยมันก็ป้องกันไข้หวัดใหญ่ มันก็เป็นญาติกับโควิด-19 เราก็ทานป้องกันเอาไว้”

“การเตรียมตัวที่สำคัญที่สุด ก่อนวันฉีด 2 วัน ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ทานวิตามินซี ดื่มน้ำให้เยอะๆ และอย่าออกกำลังกายหนัก เพราะจะทำให้ร่างกายเราอ่อนเพลียหัวใจเราทำงานมากเกินไป กล้ามเนื้อทำงานมากเกินไป ชากาแฟที่ที่มีคาเฟอีนพวกนี้ทำให้หัวใจเราทำงานหนักขึ้นก็ต้องเลี่ยงไปก่อน แต่ว่าหลังจากฉีดคุณหมอก็ไม่ได้ห้ามแล้ว เพราะเราพักครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ว่ายังขอให้งดออกกำลังกายมากๆ หลังฉีดไปอีก 2 วันนะครับ แต่ดื่มน้ำให้เยอะไว้จะดีที่สุดครับ”

หลังจากนี้จะไปฉีดเข็มที่ 2 อีกเมื่อไหร่? “ผมต้องไปฉีดเข็มที่ 2 วันที่ 21 ก.ค. ครับ คือวัคซีนมี 2 ชนิดที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน จริงๆ เข้ามา 3-4 ที่อย.อนุมัติ แต่สองตัวที่ใช้อยู่นี้ เนื่องจากหนึ่งเรานำเข้ามามีจำนวนพอสมควร กับสองเราเริ่มผลิตได้ในประเทศไทยแล้วถึงจะได้เริ่มฉีดจำนวนมาก แอสตร้าเซเนก้า ได้รับอนุมัติแล้ว อย.ตรวจเรื่องของความปลอดภัย ผู้ที่สูงอายุเลย 60 ขึ้นไป คุณหมอจะฉีดแอสตร้าเซเนก้าให้ ผมฉีดแอสตร้าเซเนก้า เพราะผมอายุเกิน 60 ฉีดแอสตร้าเซเนก้า ต้องเว้นไป 2 เดือนครึ่งถึงจะฉีดเข็มสอง ส่วนซิโนแวคสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ไม่ต้องรอนาน 3 อาทิตย์คุณฉีดเข็มสองแล้ว ที่ว่าดีกว่าคือไม่ต้องรอนาน ผมเองก็ใจร้อนไง คือฉีดแล้วผมไม่อยากรอนาน แต่ไม่ได้หมายความว่าพอฉีดแล้วคุณจะเก่งจะดี คุณก็ต้องเว้นระยะทำตัวเป็นปกติจนกว่าโรคนี้มันจะหายไปจากประเทศไปอย่างแท้แน่นอน หรือว่าคนที่ติดแล้วมีอาการเป็นไม่รุนแรงเหมือนกับเราฉีดไข้หวัดใหญ่จะเป็นประมาณ 5-7 วัน อาการก็จะไม่รุนแรง เข้ารพ.ไม่ถึงกับนอนให้อ๊อกซิเจน ยกเว้นบางท่านที่อาจจะมีโรคประจำตัว โรคปอด หรือว่าโรคอื่นๆ ที่ทำให้มีอาการข้างเคียงที่รุนแรงมากกว่าคนที่มีความป่วยน้อยกว่า”

ฝากถึงหลายคนที่ยังลังเล ไม่กล้าฉีดวัคซีน? “ทั้งหมดนี้ผมอยากจะถามกลับไปนิดนึง มีเหตุผลอะไรที่ไม่กล้า มีเหตุผลอะไรที่ลังเล ผมก็เสพข่าวมากพอๆ กับพวกคุณ เราเสพข่าวเราแยกให้ออกนะครับ การที่เราเสพข่าวหรือเสนอข่าวต่างๆ ถ้าข่าวดีไม่ค่อยจะเป็นข่าวหรอกครับ หรือคนที่เสพข่าวก็ไม่ค่อยจะชอบดูข่าวดีๆ หรอก ชอบดูข่าวรถคว่ำคนตาย แล้วก็พูดต่อกันไปเป็นลามทุ่ง

ถ้าหากว่าผมจะต้องเป็นอะไรไปสักคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าผมเก่งผมดีผมวิเศษอะไร ไม่ใช่เลย ผมทำตามหน้าที่ของผมเท่านั้นเอง ในฐานะที่คุณก็เป็นคนไทยอยู่ในประเทศไทย คนที่มีหน้าที่ขอร้องให้คุณไปฉีด คุณก็ทำหน้าที่ของคุณ ท่านก็ทำหน้าที่ ถ้าสองอย่างมาบวกกันได้ลงตัวประเทศไทยเราก็จะดีขึ้น จะหมดเรื่องโรคระบาดรุนแรงในบ้านเมืองกลับมาเปิดเป็นปกติ แล้วทุกคนจะอยู่มีความสุข ได้กลับมาทำงาน ทุกคนมีปัญหาหมดเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดเกิดขึ้นมาทุกอย่างปิดหมด ความเดือดร้อนอยู่กับประชาชน เราจะช่วยให้ความเดือดร้อนหมดไปจากประชาชน คือพวกเราเอง และประเทศเราก็จะเปิดกลับมาได้อย่างสดใสงดงาม เราร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันเท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่เชื่อใคร ไม่เชื่อแม้กระทั่งหมอ ไม่เชื่อวัคซีน ก็ขอให้คุณเชื่อตัวคุณเอง ผมมาเล่าในประสบการณ์จริงที่ผมไปทำมา และอาการที่ผมได้รับสร้างความมั่นใจให้กับพวกคุณ มั่นใจในวัคซีน มั่นใจในตัวหมอ และโดยเฉพาะมั่นใจในตัวคุณ ถ้าคุณไม่มีอะไรอยู่ในร่างกายคุณ ฉีดเถอะครับมันปลอดภัยแน่นอน ถ้าอะไรจะเกิดขึ้นผมไม่โทษใครเลย ผมโทษร่างกายผมเท่านั้นเองครับ”

“อยากจะช่วยรณรงค์ให้ทุกคนมาฉีดเถอะครับ เราเจ็บป่วยก็แค่วันสองวัน ถ้าหากว่าเราไม่ฉีดแล้วเราป่วยมาก มันก็ต้องไปนอนรพ. อย่างน้อยที่สุดเลยต้องเลย 14 วันไป บางคนอาการมากเป็นเดือน แบบพี่ปั่น ไพบูลย์แก้ว นักร้องที่เขาไปอยู่ 30 กว่าวัน กว่าจะได้ออก ธรรมดาคุณกักตัวอยู่บ้าน คุณไม่เป็นอะไร คุณก็อึดอัดแล้วนะ ถ้าหากว่าคุณไปเกี่ยวข้องกับคนที่เขาเป็นปั๊บ คุณต้องไปกักตัวเฉยๆ โดยที่คุณไม่รู้ว่าเป็นหรือไม่เป็นก็ไม่รู้ สู้ให้มันเป็นไปเลยดีกว่าจะได้รักษา แต่ว่ามันก็ยังไม่เป็นแต่คุณต้องไปกักตัว ถ้าหากคุณต้องไปถูกกักตัวอยู่14วันคนเดียวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ หรือว่าต้องไปนอนรวมกับคนอื่น แล้วติดต่อใครไม่ได้คุยกับใครไม่ได้ 14 วันคุณจะอึดอัดมากกว่ามั้ย คุณอยากจะเป็นแบบไหน”

“ทุกอย่างประสิทธิภาพเท่ากัน ยกเว้นว่าอาการแพ้จะไม่เท่ากัน บางคนไม่แพ้เลย มันเป็นเรื่องร่างกายของแต่ละคน สรีระร่างกายไม่เท่ากัน บางทีคุณไปเห็น 1 ในล้าน คนแล้วมาคิดว่าคุณเป็นแบบนั้น ทำไมคุณไม่คิดว่าคุณเป็น 9แสนเก้าเก้าเก้า ถึงบอกว่ามนุษย์เราชอบไปจับตัวไม่ดี เอามาเก็บแล้วคิดอยู่เสมอกับความทุกข์ เราไม่ค่อยเอาความทุกข์ออกไปจากร่างกายเรา เราจะจำความทุกข์มากกว่าความสุข”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6398795
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6398795