การคืนชีพทางดนตรีในรอบ 19 ปี กับ ‘ขโมย’ ของวงไทยสุดล้ำ ‘อวสานเซลส์แมน’


ให้คะแนน


แชร์

28 พ.ค. 2564 11:43 น.

Closed in: 45

  • วงดนตรีดูโอที่เราคิดถึงอย่าง Death of a Salesman (เดธ ออฟ อะ เซลส์แมน) หรือ ‘อวสานเซลส์แมน’ ฟื้นคืนชีพในทางดนตรีอีกครั้งด้วยเพลง ‘ขโมย’ ที่ถูกปล่อยเป็นมิวสิกวิดีโอออกมาให้ชมเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยยังคงไม่ทิ้งความ ‘ล้ำสมัย’ ทั้งในแง่เนื้อหาและดนตรี
  • ‘ขโมย’ มีเนื้อหาที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมในหลากหลายมิติ และซาวนด์ดนตรีที่มีความโดดเด่นด้วยเสียงสังเคราะห์, ซาวนด์แอมเบียนต์ และไลน์กีตาร์เท่ๆ นี่คือเพลงในสไตล์ ‘สโลว์คอร์’ ด้วยจังหวะกลองที่เนิบช้าจนให้ความรู้สึกเวิ้งว้างไร้ทางออก ซึ่งสอดคล้องกันอย่างดีกับภาพของธรรมชาติที่ค่อยๆ แหลกสลายลงอย่างเชื่องช้าในมิวสิกวิดีโอ

นับตั้งแต่เพลง ‘สปิน’ ที่ กระชาย-จตุรวิธ ฉัตตะละดา และ ปริญญ์ อมรศุภศิริ ทำร่วมกัน ถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้ม Smallroom 002 – Songs from the Audience ของค่าย Smallroom ก่อนที่จะมีอัลบั้มชุดแรกในปี พ.ศ. 2545 มาจนถึงวันที่ทางวงปล่อยซิงเกิลสุดท้ายใน Viewed อัลบั้มรวมเพลงคัฟเวอร์ของ Crub -วงอัลเทอร์เนทีฟต้นแบบวงแรกๆ ของไทย-ที่ทางวงนำเพลง ‘สุขใจ’ มาคัฟเวอร์ใหม่ได้ล้ำสุดๆ เมื่อปี 2547 …พวกเขาก็ไม่มีผลงานเพลงใหม่ๆ ออกมาอีกเลย

ข่าวแนะนำ

แต่เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา อัลบั้มชุดแรกและชุดเดียวของวงได้ถูกนำมาปล่อยให้แฟนๆ ได้ฟังแบบสตรีมมิงในทุกช่องทาง พร้อมยังบอกข่าวดีที่ทำให้แฟนเพลงตื่นเต้นกันล่วงหน้าด้วยว่า ทางวงกำลังจะมีซิงเกิลใหม่ในรอบ 19 ปี และวง Death of a Salesman (เดธ ออฟ อะ เซลส์แมน) หรือ อวสานเซลส์แมน จึงฟื้นคืนชีพในทางดนตรีอีกครั้งด้วยเพลง ‘ขโมย’ ซึ่งถูกปล่อยเป็นมิวสิกวิดีโอออกมาให้ชมกันทาง YouTube ของวงเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมนี้เอง

‘ขโมย’ เป็นเพลงใหม่ของวงที่ยังคงล้ำสมัย ทั้งเรื่องของคอนเซปต์เนื้อหาที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมในหลากหลายมิติ และซาวด์ดนตรีที่มีความโดดเด่นด้วยเสียงสังเคราะห์, ซาวด์แอมเบียนต์ และไลน์กีตาร์เท่ๆ นี่คือเพลงในสไตล์ ‘สโลว์คอร์’ ด้วยจังหวะกลองที่เนิบช้าจนให้ความรู้สึกเวิ้งว้างไร้ทางออก ซึ่งสอดคล้องกันอย่างดีกับภาพของธรรมชาติที่ค่อยๆ แหลกสลายลงอย่างเชื่องช้าในมิวสิกวิดีโอ พร้อมทั้งภาพของวัยรุ่นหญิงที่นั่งจ้องมองจอทีวีเหมือนกำลังถูกควบคุมความคิดและจินตนาการอยู่

กระทั่งเมื่อเธอกล้าที่จะลุกขึ้นมาเต้นรำอย่างอิสรเสรี เธอก็กลับถูกชายที่สูงวัยกว่าขว้างบ่วงบาศใส่จนเธอไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้ดังใจคิด ขณะที่เนื้อหาของเพลงก็ยังพูดถึงการถูก ‘คนรุ่นเก่า’ ขโมยความเชื่อความฝันหลายๆ อย่างของ ‘คนรุ่นใหม่’ ที่อาจสร้างความแตกต่างเพื่อนำทุกคนไปสู่ชีวิตและสังคมที่ดีกว่าในอนาคต แล้วเหลือไว้แค่เพียงความคิดแบบอุดมคติของผู้ใหญ่ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง ไม่ต่างจากการทำลายธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ให้ค่อยๆ พังพินาศไปกับตา

เห็นได้ชัดว่า ‘ขโมย’ เป็นการปะทะทางความเชื่อและทัศนคติระหว่างคนสองรุ่น โดยใช้การเสื่อมถอยของธรรมชาติมาเป็นการเปรียบเปรยให้เห็นถึงความไม่ลงรอยระหว่างกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ชมและผู้ฟังได้ตีความถึงเนื้อหาของบทเพลงได้อย่างเต็มที่ โดยเสื้อยืดที่สกรีนคำว่า “How Dare You” (“คุณกล้าดียังไง?”) ที่กระชายใส่ในเอ็มวีเป็นคำพูดของ เกรตา ธันเบิร์ก -เด็กสาวชาวสวีดิชวัย 18 ปีที่อุทิศตนเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม- พูดในการประชุมกับ สหประชาชาติ (UN – United Nations) ว่าด้วยวิกฤติสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง โดยวิวาทะนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความคิดของเธอที่ว่า ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ ‘ขโมยความฝันและวัยเด็กของเธอไป’ ซึ่งก็รวมถึงแนวคิดของเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องการจะก้าวให้พ้นจากความเชื่อของผู้ใหญ่ที่ยัดเยียดใส่หัวของเด็กมาอย่างยาวนานด้วย

ประเด็นสำคัญของเพลง ‘ขโมย’ ยังดูมีความคล้ายคลึงกับเพลง Rebellion (Lies) ของวง Arcade Fire พอสมควร เพราะทั้งสองเพลงต่างพูดถึงการเล่า ‘นิทานหลอกเด็ก’ หลายๆ เรื่องเพื่อสร้างความหวาดกลัว และทำให้เด็กๆ ไม่กล้าที่จะตั้งคำถามหรือก้าวข้ามกรอบความคิดเดิมๆ ที่ผู้ใหญ่ได้วางเอาไว้ ซึ่งก็ตรงกับเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่เขียนว่า “กาลเวลาล่วงผ่านพ้นไป เรายังคงเดินคนละทิศทาง หากเธอขโมยบางอย่างจากฉันไป เมื่อนั้นก็คงอยู่กับสิ่งที่เวียนวนหลงทาง”

ดังนั้น การที่ เกรตา ธันเบิร์ก ออกมาตะโกนใส่หน้าผู้ใหญ่ว่าเป็นผู้ขโมยความฝันของเธอ จึงเป็นการสื่อสารอย่างมีนัยสำคัญว่า ชุดความคิดที่คนรุ่นใหม่ได้รับมา ยังคงเป็นชุดความคิดเก่าๆ ที่คนรุ่นเก่าปฏิบัติสืบทอดกันมาตามความเชื่อ กฎระเบียบ หรือแม้กระทั่งกฎหมายที่ล้าหลัง ซึ่งส่งผลให้เด็กๆ ในตอนนี้ต่างลุกขึ้นมาเรียกร้องอิสรภาพที่พวกเขาต้องการมากขึ้น

เพราะพวกเขาไม่ต้องการถูกบ่วงบาศจากโลกยุคเก่าพันธนาการเอาไว้ท่ามกลางโลกรอบข้างที่กำลังพังทลายลงไป …จนถึงจุดที่ไม่ว่าคนรุ่นไหนก็ไม่อาจหวนกลับไปแก้ไขได้อีก

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2102856
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2102856