เข้มข้นห้ามกะพริบตามาถึงโค้งสุดท้ายของละครฟีลกู๊ด “มนต์รักหนองผักกะแยง” ทางช่อง 3 ที่คว้าตัวพระเอก ณเดชน์ คูกิมิยะ มาประกบคู่กับนางเอกสาว โบว์-เมลดา สุศรี ก็ทำเรตติ้งถล่มทลาย ผลงานการกำกับการแสดงของ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ชื่อนี้การันตีถึงผลงานคุณภาพ ผลักดันลูกสาวคนเก่ง บีบี–เอกนรี ขึ้นแท่นเป็นผู้จัดละครเรื่องแรก ซึ่งเรื่อง ราวดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ววันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.นี้

ฟากนางเอกสาว โบว์-เมลดา ที่ข้ามจากวิก 7 สี มาประเดิมเล่นละครเรื่องแรกให้กับบ้านหลังใหม่ทางช่อง 3 ก็กระแสปัง แฟนๆชื่นชมว่าเล่นสมบทบาท ทำเอาหลายคนหลงรัก “ชมพู่” สาวบ้านนา จนเจ้าตัวปลื้ม “ต้องขอบคุณแฟนช่อง 3 ที่ให้การตอบรับโบว์เป็นอย่างดี กับละครเรื่องแรก ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของการเป็นนักแสดง เพราะกระแสค่อนข้างดี ต้องขอบคุณพี่อ๊อฟที่เคี่ยวเข็ญ ขอบคุณพี่ณเดชน์ที่ชวนติวเรื่องภาษาอีสาน เรื่องนี้สำหรับโบว์ก็ยากและท้าทายมากค่ะ คาแรกเตอร์ต้องเป็นสาวบ้านนาต้องทำการเกษตรเป็นทุกอย่างคือ ชมพู่ เค้าจะเป็นสาวที่ห้าวๆลุยมากๆค่ะ สู้รบปรบมือเพื่อความยุติธรรม ตัดสินใจอะไรก็ทำทันทีเลย ใช้ความรู้สึกนำความคิดของตัวเอง แต่จริงๆก็เป็นคนดีคนหนึ่ง พร้อมลุยตลอดเวลา ซึ่งตรงข้ามกับตัวเองมากๆ ต้องปรับตรงนี้เยอะเลย”

เรื่องภาษาก็ต้องปรับด้วยเหรอ ทั้งที่โบว์ก็บอกว่าเป็นคนอีสาน?

“ก็มีปรับนิดนึงค่ะ เพราะถึงแม้ว่าพ่อแม่ของโบว์จะเป็นคนอีสาน แต่ก็จะมีสำเนียงและภาษาก็ไม่เหมือนกัน คือแม่โบว์เป็นคนภูไท สำเนียงก็จะไม่ใช่ภาษาอีสานแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์มีความเหน่ออยู่หน่อยๆ ส่วนพ่อก็เป็นคนขอนแก่น ซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้พูดกันมากนัก ทำให้ไม่ได้เรียนรู้ภาษาอีสานมากขนาดนั้น เวลาโบว์พูดในละคร ถ้าสังเกตและฟังให้ดี ก็มีเหน่อบ้างเป็นอีสานสุพรรณ (หัวเราะ) บางคำก็แอบลืมบ้าง เพราะโบว์ไม่ได้พูดมานานเหมือนกัน ตั้งแต่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด เต็มที่กับการทำงาน ก็ต้องเรียนพูดเพิ่ม ถามจากทีมงาน จากพี่ณเดชน์บ้าง ซึ่งพี่เขาก็จะช่วยเราเรื่องภาษาอีสานอยู่แล้ว มีฝึกฟังภาษาอีสานบ่อยๆค่ะ”

เล่นเรื่องนี้เห็นว่าได้ทำอะไรหลายอย่างเลย?

“ค่ะ ก็ยังมีไปเรียนเกี่ยวกับการทำเกษตรเพิ่ม เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมต่างๆ แล้วก็ยังมีโอกาสได้ร้องเพลงอีกด้วย ก็สนุกและตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับค่ายพี่อ๊อฟ คือเราดูผลงานของพี่ๆเค้าอยู่แล้ว อันนี้ก็ดีใจที่สุด รวมทั้งพี่ณเดชน์ด้วย ซึ่งซีนที่ทำให้โบว์จำแบบไม่รู้ลืมเลย ก็คือฉากที่เราจมน้ำ แล้วพี่ณเดชน์ช่วยให้เราขึ้นมาจากน้ำ แต่ทำยังไงเราก็ไม่ตื่น พี่ณเดชน์เลยใช้วิธีการตบหน้า ซึ่งมันเจ็บมาก เจ็บแบบที่ไม่เคยโดนที่ไหนมาก่อน ตอนนั้นก็ปล่อยไหลไป เพราะยังถ่ายทำอยู่ แต่พอสั่งคัตโบว์น้ำตาไหลเลย โบว์แอบไปร้องไห้ ไม่อยากให้พี่ณเดชน์เห็น ซึ่งเราเองก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการทำงาน แต่ตอนนั้นมันเจ็บจริงๆค่ะ มาถึงตอนสุดท้ายตัวละครแต่ละตัวจะมีบทสรุปยังไง ห้ามพลาด โบว์บอกได้แค่นี้ค่ะ”.

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ