ผู้กำกับอาวุโส ประยูร วงษ์ชื่น ป่วยหนัก เส้นเลือดในสมองแตก ญาติหวังปาฏิหาริย์


ให้คะแนน


แชร์

ประยูร วงษ์ชื่น ผู้กำกับอาวุโสชื่อดัง ป่วยหนักเข้าไอซียู เส้นเลือดในสมองแตก หมอให้ญาติทำใจลูกชายเผยพ่อเครียดหนัก ไร้งาน หนี้สินรุมเร้า หวังปาฏิหาริย์ วอนของานละครสานฝันพ่อ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2564 มีรายงานข่าวว่า ประยูร วงษ์ชื่น ผู้กำกับอาวุโสชื่อดัง ที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์ดัง ในยุค 80-90 อาทิ เวลาในขวดแก้ว, พ่อตาปืนโต, มันแอบอยู่ในหอ นายร้อยสอยดาว กองพันทหารเกณฑ์ ฯลฯ

โดยตอนนี้ อาประยูร ป่วยหนัก เส้นเลือดในสมองแตก ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 64 เข้าไอซีอยู่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลชลประทาน ทั้งนี้ ข่าวสดออนไลน์ ได้สอบถามไปยังลูกชายของผู้กำกับดัง ได้รับการเปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งร่ำไห้ว่า

“คุณพ่อเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. คุณหมอสแกนสมองพบอาการเลือดออกในโพรงสมอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาการท่านบางวันก็ดี บางวันก็ทรง บางวันก็วิกฤต เมื่อสองวันที่แล้วอาการท่านวิกฤตมีภาวะเลือดหัวใจตีบด้วย มีภาวะค่าไตเพิ่ม และมีติดเชื้อในปัสสาวะ ติดเชื้อในกระแสเลือด ทางคุณหมอโทรมาบอกว่า ทางญาติได้คุยกับอะไรกับทางคุณประยูรไว้ไหม ท่านเคยบอกไว้ก่อนที่ท่านจะป่วย ถ้าเกิดท่านเป็นอะไรไป หรือว่าท่านไม่หายใจก็อย่ายื้อท่านขึ้นมา ปล่อยให้ท่านไปสบาย เลยบอกกับคุณหมอไป คุณหมอเลยบอกว่า ตอนนี้ต้องทำใจเพราะอาการท่านยังวิกฤตอยู่ พร้อมที่จะไม่ตอบสนองได้ตลอดเวลา ตอนนี้มันมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสมอง เลือดที่อยู่ข้างในโพรงสมองยังทำวิธีการใดไม่ได้ เพราะเรื่องความดันไม่ปกติ เรื่องการติดเชื้อต่าง ๆ”

“อัพเดตล่าสุดคุณหมอก็พยายามดูแลท่านเต็มที่ คุณหมอบอกว่าญาติต้องเผื่อใจไว้ ก็ยังวิกฤตอยู่ตอนนี้ครับ”

“ในฐานะลูกเราก็อยากรักษาคุณพ่อให้เต็มที่ ท่านเคยบอกว่าถ้าถึงเวลาจริง ๆ ท่านไม่อยากทรมาน ไม่อยากเหนื่อยแล้ว ท่านเหนื่อยมาเยอะแล้ว ตอนนี้ท่านรู้สึกว่าท่านไม่ไหว ท่านตื่นขึ้นมาก็กระวนกระวายเพราะเกี่ยวกับทางด้านสมอง คุณหมอก็พยายามให้ยาเพื่อจะให้แกหลับ แกจะได้ไม่คิดไม่กังวล เพราะทุกครั้งที่ท่านรู้สึกตัวจะทรมาน จะดิ้น”

คุณพ่อรู้สึกตัวยังสามารถสื่อสารได้ไหม? “ตอนนี้คุณพ่อใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ เป็นบางวันที่คุณหมอถามว่า ชื่อประยูรใช่ไหม แล้วให้ท่านพยักหน้า ท่านก็พยักหน้า ให้ท่านชูนิ้ว ท่านก็ชูนิ้ว แต่ ณ ปัจจุบันสมองของท่านจำได้น้อยลงแล้วครับ อาจจะมีความรู้สึกตอบสนองบ้างแต่ช้าลงแล้วครับ ผมก็คุยกับทางคุณหมอ ถ้าเกิดว่ามันมีปาฏิหาริย์ ท่านกลับมาจากโรงพยาบาล ท่านจะเหมือนเดิมไหม คุณหมอบอกว่าท่านคงไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะมันเกี่ยวกับระบบสมองถ้ามันชำรุดไปสักเส้นหนึ่ง มันก็จะไม่ปกติเหมือนเดิมแล้วครับ

“ส่วนค่ารักษาตอนนี้ท่านก็ยังใช้สิทธิ์อยู่ แต่มันก็จะมีบางอย่างที่เป็นยานอกบัญชีต่าง ๆ ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่ามันประมาณไหน ทางคุณพ่อ ช่วงหลัง ๆ ท่านก็พยายามเสนองานไปแต่ละที่ เพราะความตั้งใจของท่านอยากกลับมาทำหนัง ทำละครอีกครั้ง พอทีนี้ไม่ได้รับการตอบสนอง ท่านก็เกิดภาวะเครียด ทั้งหนี้สินต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมา ท่านก็เกิดความเครียดว่าไม่มีรายได้เลยตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา (น้ำเสียงสั่นร่ำไห้) ท่านก็เกิดความเครียดว่าจะหาเงินจากตรงไหน งานก็ไม่มี ไปเสนองานก็ไม่ได้ เครียดทุกวัน ๆ แต่ท่านก็พยายามที่จะไม่บอกครอบครัว ท่านจะเก็บไว้คิดคนเดียว จะไปยืมคนโน้นคนนี้มาเพื่อจะมีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน”

ครอบครัวกังวลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่ารักษาที่สูงขึ้น? “ทางคุณพ่อไม่มีงานด้วย อย่างทางพวกผมตอนนี้คุณพ่อไม่มีงาน ผมก็ต้องไปหาทางอื่น ไปเป็นฟรีแลนซ์ ไปรับจ้างเขาต่าง ๆ ช่วงโควิดยิ่งไม่มีงาน ท่านก็เครียดมาก ในภาวะที่ท่านไม่มีงานด้วยภาระหนี้สินต่าง ๆ มันก็ลำบาก ท่านก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็อยากจะขอโอกาส ขอวิงวอนเพื่ออยากสานต่องานให้ท่าน ในสิ่งที่ท่านอยากทำ ถึงแม้ท่านจะไม่ได้รับรู้เหมือนเดิมแล้ว อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสไปกระซิบข้างหูพ่อว่า พ่อ ลูกจะสานงานต่อให้พ่อนะ ที่พ่ออยากจะทำ ลูกจะทำให้นะครับ ถ้ามันมีโอกาสนะครับ(ร่ำไห้เสียงสั่น)”

“อยากได้งานละคร ท่านไม่เหมือนเดิมแล้วก็เหมือนไม่มีเสาหลักแล้ว ครอบครัวก็ต้องช่วยกันแล้วตอนนี้ คุณพ่อก็เป็นอย่างนี้แล้ว”

“ความช่วยเหลือในเบื้องต้น เราอยากได้งานครับ เพื่อจะได้มีเงิน อย่างที่บอกคุณพ่อมีหนี้สินเยอะผมพูดตรง ๆ คนในวงการบางคนอาจจะไม่รู้ว่า มองว่าคุณพ่อมีบ้าน 2 หลัง มีรถ แต่ ณ ตอนนี้มันไม่เหลือแล้ว บ้านกำลังจะโดนยึด รถก็จะกำลังจะโดนยึด ทุกอย่างมันประดังเข้ามาพร้อม ๆ กันหมด ครอบครัวก็ดิ้นรน ไม่ใช่ไม่ดิ้นรน แต่โอกาสไม่มีและเจอโควิดด้วย พวกผมก็ไม่มีงานเหมือนกัน คุณพ่อก็มาป่วยอีก

หากมีคนยืนดียื่นมือช่วยให้เงินสะดวกใจรับ หรือเปิดบริจาคไหม? “ผมขอปรึกษากันก่อนได้ไหม เรื่องตรงนี้ผมเข้าใจว่าทุกคนเดือดร้อนกันหมด ถ้าเกิดเราทำตรงนี้ไปมันจะมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นไปหรือเปล่า ขอคิดดูกันก่อนว่ามันจะสมควรมากน้อยขนาดไหน เดี๋ยวสังคมจะมองว่า พอคุณพ่อป่วยก็มาอ้างโน่นอ้างนี้ เป็นหนี้เป็นสินไม่มีงาน ผมไม่อยากให้เกิดฟีดแบ็กตรงนี้ด้วยครับ”

“ครอบครัวก็ให้กำลังใจกัน คุณแม่ผมก็ป่วยด้วย คุณแม่เป็นโรคหัวใจ ตอนนี้คุณแม่ผมก็เหนื่อยมาก แล้วตอนนี้ท่านยังไม่รู้ พวกผมจะบอกท่านพรุ่งนี้ จะเรียกพี่น้องมาคุยกันแล้วบอกกับคุณแม่ กลัวว่าคุณแม่รับรู้แล้วท่านจะฟุบไปอีก บอกตรง ๆ ว่าครอบครัวลำบากจริง ๆ ลำบากมาก แต่คุณพ่อไม่เคยไปขอสื่อขอใครว่าท่านลำบาก ท่านสู้ตลอด ท่านคิดว่าต้องได้งานสักวันหนึ่งเพื่อครอบครัวจะได้กลับไปเหมือนเดิม ไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ท่านไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใคร ท่านเหนื่อยแล้ว”

“มีความหวังปาฏิหาริย์ให้มันเกิดขึ้น หวังว่าท่านจะกลับมาดูลูก ๆ ว่าตอนนี้ลูก ๆ จะทำให้ท่านไม่ต้องเหนื่อยแล้ว”

“แรก ๆ คุณพ่อรับรู้ได้ว่าลูกมาเยี่ยมตลอด แต่หลัง ๆ รพ.ช่วงโควิดเขาห้ามเยี่ยม ห้ามเฝ้า ผมไปได้เห็นเฉพาะตอนไปเซ็นเอกสาร หรือไปชำระค่ายา จะได้เห็นท่านห่าง ๆ ไม่ได้ไปยืนข้าง ๆ เหมือนช่วงแรก ๆ ที่ท่านยังไม่วิกฤต พอท่านวิกฤตแล้ว ห้องไอซียูอยู่ห่างสัก 10 เมตร ผมก็ยืนดูอยู่ห่าง ๆ ว่าอาการแกเป็นยังไง”

“คุณพ่อกำกับละครเรื่องล่าสุด นายร้อยสอยดาว ทางช่อง 5 เป็นหนี้สินหนักก็ตอนที่ต้องมาลงทุนเอง ทุกอย่างมันไปหมดเลย ด้วยความที่ท่านอยากจะทำงานที่ท่านรัก จะทำยังไงได้ ท่านก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่้อจะได้ทำตรงนี้ ปกติคุณพ่อไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับด้านสมองเลย ก็มีแค่เรื่องความดัน เรื่องหัวใจ ไปหาหมอตลอด แต่พอมาเจอตรงนี้ป่วยเกี่ยวกับสมอง โรคต่าง ๆ ทุกอย่างจะตามมาหมด ทั้งไต มันไม่เคยเกิดมันก็เกิด ภาวะไตวายขึ้นมา ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ติดเชื้อด้วย คุณพ่อตอนนี้อายุ 74 ปี แล้วแกก็ทำงานมาตลอด ก่อนจะเข้ารพ. ผมยังมานั่งเขียนโปรเจ็กต์ด้วยกัน เราจะส่งงานให้ช่อง ขอแก้เรื่องนิดนึง แต่ยังไม่ทันได้ส่ง ท่านก็มาป่วยซะก่อน”

อยากฝากพี่ ๆ ลุงอาในวงการบันเทิง แฟนคลับของคุณพ่อ ช่วยส่งกำลังใจให้คุณพ่อกลับมาเหมือนเดิม กลับมาทำงานที่ท่านรัก ส่งกำลังใจให้คุณพ่อด้วยครับ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6448140
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6448140