เปิดใจทั้งน้ำตา โก๊ะตี๋ อารามบอย ตลกชื่อดังเล่าประสบการณ์นาทีชีวิต หลังเจ้าตัวติดเชื้อโควิด-19 และได้เข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนหายดีกลับไปอยู่บ้านแล้ว เลยมาบอกเล่าความรู้สึกผ่านทางเฟซบุ๊ก “Suansanook Cactus” เปิดใจร่ำไห้ขอบคุณทุกๆคน ทั้งครู เพื่อนเก่า พี่ๆในวงการที่เคยร่วมงานสิบปีไม่เคยเจอกัน ทุกข้อความที่ส่งมาที่ทำให้รับรู้ว่าเวลาคนจะตายมีใครบ้างที่คิดถึงห่วงใย และยังขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคน รวมทั้งขอบคุณ ชมพู่-อารยา ที่ไม่คิดว่าจะนึกถึงกัน

“อยากจะขอบคุณทุกๆคน บางคนห่างหายกันไปเป็น 10 กว่าปี พอรู้ว่าเป็นโควิด ก็มีความห่วงใย ครูที่โรงเรียนเก่า เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็น 10-20 ปี พี่ๆที่เคยร่วมงานกันรับรู้ความรู้สึก ที่ทำให้รู้ว่าเวลาที่เราจะตายมีใครบ้างที่เค้าห่วงเรามีใครบ้างที่เรายังอยู่ในความทรงจำเค้า ในวันที่เรากำลังจะตายทำให้รู้ว่าใครรักเราจริงๆ พี่ยอร์ชโทร.มา พี่โน้สโทร.มาแต่ละคนไม่เคยเจอเป็นสิบปี ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกๆคนที่เป็นห่วง ขอบคุณอาต๋อย-ไตรภพ ขอบคุณพี่ยุทธ-สรยุทธ ขอบคุณผู้ใหญ่มากมายที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ และชมพู่-อารยา พูดถึงแล้วน้ำตาไหลทุกครั้ง เค้าเป็นคนที่อ่อนไหว หนูเคยร่วมงานกับเค้าสนิทกันตั้งแต่ชมพู่ยังไม่มีแฟนจนชมพู่มีลูก พอเค้ารู้ว่าติดโควิดพยายามโทร.หาแล้วก็ได้คุยกันว่าเรากำลังรักษา เค้าบอกว่าจะส่งยาจีนมาให้ แวบแรกไม่ได้รู้สึกว่า จะต้องหาย ต้องรอด

แวบแรกที่ชมพู่โทร.มา คือชมพู่เค้าเป็นคนดัง อาจเคยร่วมงานกัน เคยเอาขนมไปให้กินตอนท้อง แล้วไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ชมพู่โทร.มาหา เป็นไงมั่ง จะส่งยาจีนมาให้นะ ความรู้สึกเราคือ เอาจริงๆเราเป็นตลกกระจอกๆธรรมดา ไม่มีความจำเป็นที่ชมพู่-อารยาเค้าเป็นดาราดัง พูดตรงๆมันก็รวย ด้วยวิถีชีวิตมันไม่ต้องมาใส่ใจอะไรเราก็ได้ว่าจะเป็นจะตาย ด้วยความที่เคยทำงานด้วยกัน เล่นคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดด้วยกัน ปรับสารทุกข์สุกดิบทุกข์ในใจ วันหนึ่งทำให้รู้เลยว่าวันที่เราจะตายใครรักเราจริง พี่ยอร์ช พี่โน้ส โทร.มา แต่ละคนที่ไม่เคยเจอเป็น 10 ปี ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆน้องๆดาราทุกคนจากใจที่เป็นห่วง อย่างเดียวที่หนูห่วง คือหนูห่วงแม่ หนูไม่กอดแม่ ใส่หน้ากากทุกครั้ง บอกแม่ไม่ให้ไปไหน จะมีใครคิดไหมว่าวันหนึ่งโรคระบาดจะมา คนไทยตายวันละ 90 คน 80 คน ติดเพิ่ม 9 พันคน ไม่มีใครคิด เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องอยู่กับมันให้ได้ ชีวิตต้องเดินต่อไป”

โก๊ะตี๋ร้องไห้อย่างหนักเปิดเผยอีกว่า “ในไลฟ์นี้หนูขอสัญญาก่อนที่จะจากแผ่นดินนี้ไป จะทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อคนไทย เพราะคนที่เค้าลำบากกับบางครอบครัวที่ต้องสูญเสีย เราโชคดีที่มายืนตรงนี้ มีผู้ใหญ่เมตตา ถ้าหนูเป็นลูกชาวนาเป็นคนจนๆที่ไม่มีโอกาสที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้ หนูเชื่อว่าหนูคงตาย หนูสัญญาว่าวันหนึ่งหนูจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสังคม อยากทำให้คนไม่มีโอกาสได้รับโอกาสทุกคนต้องสู้ต้องรอดไปด้วยกัน ยังมีความลำบากทุกหย่อมหญ้า ยังมีคนคอยความช่วยเหลือทุกๆที่ มีหลายคนที่ไม่ได้โชคดีเหมือนเรา

คนที่เค้าต้องสูญเสีย อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองดีๆอย่าประมาทกับมัน เราเกิดไม่ทันสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นี่คือสงครามโรคภัยไข้เจ็บที่ต้องเจอ หวังว่าทุกคนจะผ่านไปได้ด้วยดี เราต้องรอดและสู้ไปด้วยกัน ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียจากโรคภัยไข้เจ็บนี้ ถ้าสามารถจะช่วยอะไร หรือใครอยากให้ช่วยอะไร อาจไม่มีเงินทองมากมาย แต่มีกำลังกายมีสมอง ถ้าเป็นประโยชน์กับสังคมยินดี เชื่อมั้ยตอนหนูนอนอยู่ในห้องคนเดียว หนูรู้เลยว่าก่อนพี่ค่อมตายแกคิดอะไร รู้เลย (ร้องไห้)…มันโหดร้าย ทุกคนดูแลตัวเองดีๆ ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้มีการสูญเสียกับครอบครัวใครเลย ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดี”.