เป้ วงมายด์ ควงแฟนสาวโชว์พุง ยันไม่ท้อง รักสุกงอมพร้อมแต่ง มั่นใจคือคนที่ใช่


ให้คะแนน


แชร์

เป้ วงมายด์ ควงแฟนสาวโชว์พุง ยันไม่ท้อง รักสุกงอมพร้อมแต่ง มั่นใจคือคนที่ใช่

เป้ วงมายด์ – วันที่ 31 ม.ค. ที่ บริษัท ที่ บ.สไปร์ซซี่ดิสก์ฯ นักร้องชื่อดัง เป้ วงมายด์ ควง กร ษิภูตา แฟนสาว เปิดใจหลังคุกเข่าขอแต่งงาน ไกลถึงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รวมถึงแจงข่าวลือแต่งฟ้าแลบ เพราะตั้งท้องหรือเปล่า?!

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

อยากให้เล่าถึงโมเมนต์ที่ตัดสินใจคุกเข่าขอน้องกรแต่งงาน?
เป้ “ผมมีโอกาสไปเล่นคอนเสิร์ตที่อังกฤษพอดี ซึ่งจัดโดยน้องๆ นักศึกษาไทยที่ไปเรียนอยู่ที่ลอนดอน ชื่อว่าคอนเสิร์ตสามัคคีเฟส ต้องบอกก่อนว่าเราตั้งใจที่จะเซอร์ไพรส์น้องที่นั่นอยู่แล้ว ทุกคนทราบดีว่าที่นั่นสวย และไม่ได้ไปได้ทุกวันอยากให้เป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำและดูพิเศษสำหรับเรา

เพราะการขอแต่งงานคงไม่ได้ขอกันทุกวัน เลยเลือกเป็นที่นี่และแพลนที่จะเซอร์ไพรส์ อีกอย่างเราคบกันมาประมาณเกือบ 2 ปี รู้สึกว่าค่อนข้างจะพอดีเลยตัดสินใจขอแต่งงาน

เตรียมตัวจากเมืองไทยเป็นยังไงบ้าง เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว?
เป้ “อันนี้ยากมาก คือเราถ่ายรายการด้วยกันค่อนข้างบ่อย สิ่งที่ยากที่สุดคือแหวน เพราะเราเจอกันบ่อยมาก ไม่รู้จะเอาแหวนไปซ่อนไว้ที่ไหน แล้วแหวนก็มาถึงก่อนที่เราจะไปทริปประมาณ 2 อาทิตย์ ยากมากที่จะซ่อน แต่ก็ซ่อนมาได้จนถึงตอนที่ไปอังกฤษ

เราตื่นเต้น จนเกือบจะเอาแหวนออกมาหลายครั้งมาก คือน้องหนาวแล้วพยายามจะเอามือมาซุกในเสื้อโค้ตเรา แล้วเราก็เอาแหวนเก็บในนั้นพอดี ต้องรีบออกมาก่อน น้องซุกมือเข้าไปพอดีก็เลยไม่เจอ สุดท้ายรอดมาได้ เลยออกมาเป็นเซอร์ไพรส์ที่สมบูรณ์ครับ”

เราคิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงก็จะแต่งกับน้องกรแน่ๆ?
เป้ “จริงๆ ตั้งใจไว้อยู่แล้ว คืออยากให้เป็นข่าวดีแรกของปีของเราทั้งคู่ เพราะว่าเป็นปีใหม่ อยากจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ กับชีวิตของเรา เรื่องแรกที่น่าจะดีที่สุด ในชีวิตของคนสองคนที่รักกัน น่าจะเป็นการแต่งงาน

ด้วยระยะเวลาในการคบกัน คนอาจมองว่าเร็วเกินไป ที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน?
กร “กรมองว่าการคบกัน ระยะเวลาไม่น่าจะเกี่ยวค่ะ อยู่ที่ว่าคนสองคนจูนกันได้มากแค่ไหน และความเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ คิดว่าความรักของเราน่าจะสุกงอมพอสมควรค่ะ”

เป้ “สุดท้ายแล้วผมรู้สึกว่า ความรักจริงๆ แล้วน่าจะแปรผกผันกับเวลา คนเราถ้าใช่ เวลาก็ไม่สำคัญครับ”

ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายรู้ก่อนที่จะไปเซอร์ไพรส์ขอกันแต่งงานหรือเปล่า?
เป้ “ผมมีโอกาสได้คุยกับหม่าม้าน้องกร คือการที่เราคบกันอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่อยู่แล้ว เรื่องเซอร์ไพรส์ผมเป็นคนจัดการ”

ตั้งแต่ศึกษากันมารู้สึกว่าน้องกร คือคนที่เราอยากจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยตั้งแต่แรกเลยไหม?
เป้ “ชีวิตผมผิดพลาดอะไรมาเยอะพอสมควร ถึงตอนนี้รู้สึกว่าด้วยอายุ ด้วยประสบการณ์ต่างๆ ทำให้รู้สึกว่า เราอยากจะใช้ชีวิตอย่างมั่นคงแล้ว อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับใครบางคนแล้ว มันถึงเวลาแล้ว เลยรู้สึกว่าทำไมเราต้องไปมองหาคนที่อยู่ไกลทั้งๆ ที่เรามีคนที่ดีที่สุดอยู่ใกล้ๆ เรา

หลังจากที่คบกันมาน้องเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น เลิกทำอะไรแย่ๆ เลยหลายอย่าง เลิกดื่ม เลิกใช้ชีวิตที่เปลืองตัวเอง กลับมาออกกำลังกาย เก็บตังค์มากขึ้น มองถึงอนาคต วางแผนในชีวิตคู่ อีกอย่างที่สำคัญที่สุด คือคุณพ่อคุณแม่ผมรักน้องกรมาก เลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดี”

คนรอบตัวเราตกใจไหม?
เป้ “เพื่อนๆ ของผมมาทราบก่อนที่จะไปทริป ประมาณซักอาทิตย์หนึ่ง จริงๆ ผมแพลนไว้พอสมควร แล้วพยายามจะให้เพื่อนเป็นคนช่วยเก็บโมเมนต์ดีๆ ไว้มากกว่า พยายามจะทำยังไงก็ได้ให้เหตุการณ์ดูเนียนมากที่สุด ให้ไม่ออกมาแบบโป๊ะและน้องกรจับได้ ไม่งั้นก็จะดูแย่นิดนึง”

ประทับใจอะไรในตัวพี่เป้ถึงตัดสินใจที่จะเซย์เยสแต่งงานกับเขา?
กร “ที่ผ่านมาพี่เป้พิสูจน์ตัวเองค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เขาก็เปลี่ยนตัวเอง จริงๆ เราเปลี่ยนตัวเองกันทั้งคู่ ปรับเข้าหากันมาเรื่อยๆ คิดว่าวันนี้น่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ดีค่ะ”

วินาทีที่เขาคุกเข่าขอแต่งงานรู้สึกยังไงบ้าง?
กร “ถ้าพี่ๆ เห็นคลิปแล้วจะได้ยินกรพูดคำว่า “จริงป่ะเนี่ย” ตอนนั้นเราจำอะไรแทบไม่ค่อยได้ ตัวชา งง ช็อกไปหมดเลย หนาวด้วย(หัวเราะ) ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก สุดท้ายต้องมาขอคลิปวิดีโอจากพี่ๆ ในวงที่ถ่ายคลิป เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

จำได้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไรบ้าง?
กร “วันนั้นเขามาถามเรื่อง One Wish”

เป้ “ผมมีรายการชื่อว่า “จรจัด” เป็นการถ่ายวล็อก(vlog)ทั่วๆ ไป มีผมกับน้องและเพื่อนคนหนึ่ง วันนั้นเราทำในคอนเซ็ปต์คำว่าวันวิช ถ้าคุณขออะไรก็ได้ 1 อย่างบนโลกใบนี้ แล้วคำขอนั้นจะเป็นความจริง เขาก็ถามทุกๆ คน สุดท้ายมาถามน้องกร เขาก็บอกว่าขอให้เขามีความสุขทุกๆ วันตลอดไป

ผมก็เลยบอกเขาว่ารู้หรือเปล่า ว่าความคิดที่ผมอยากจะขอนั้น ผมอยากจะขออะไร ผมก็หันหน้าไปหาเขา แล้วบอกว่าเราอยากจะขอเธอแต่งงาน

ตอนที่ได้ยินรู้สึกยังไงบ้าง?
กร “ช็อกก่อนเลยค่ะ จนมีคนกระซิบมาหลังกล้องว่า เซย์เยสก่อนๆ (หัวเราะ)”
กรรู้มาก่อนเลยไหมว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ขอเราแต่งงาน?
กร “มีนิดหน่อยค่ะ ตอนที่เขาบอกให้เอาไซส์แหวนมาลอง เพราะมีของกรเองที่เคยทำไว้นานแล้วแต่มันหลวม เพราะว่าผอมลง พี่เป้เห็นว่าทำมาแล้วก็ไม่ได้ใส่สักที งั้นเดี๋ยวเรามาลองวัดไซส์แหวนไหม จะได้เอาแหวนไปแก้และได้ใช้
แล้วเขาก็แอบมาวัดนิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งกรใส่แหวนนิ้วนางข้างขวา เขาก็ดูล่กๆ ลนๆ นิดนึง(หัวเราะ) ตอนนั้นก็มีเอะใจ แต่ว่าหลังจากนั้น คือไม่มีพิรุธอะไร เลยคิดว่าอาจจะลองเพื่อดูไซส์คร่าวๆ ไว้ก่อน คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ค่ะ”

แต่แอบคิดว่า เขาอาจจะขอ?
กร “คือก็คิดไว้ในใจว่าน่าจะเป็นเราละมั้ง(ยิ้ม) คือตอนนั้นรู้สึกว่าอาจจะยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ค่ะ เพราะตอนนี้เราช่วยกันสร้างอยู่”

สำหรับเรามองว่าระยะเวลามันเร็วไปไหม?
กร “กรใช้ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ตั้งแต่คบมา เอาจริงๆ มั่นใจตัวพี่เป้ค่อนข้างเยอะค่ะ รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใช่มาตั้งนานแล้ว”

อะไรที่ทำให้เราเปลี่ยนเป้ไปได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นเสือ ขึ้นชื่อเรื่องสาวๆ?
เป้ “ขึ้นชื่อเรื่องอะไรเหรอครับ(ยิ้ม) ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องร้องเพลงเลยหรอครับ”

กร “อันนี้ตอบยากเลย เป็นเรื่องของจิตใจ ตอนแรกก็ลำบากใจพอสมควร เพราะได้รับฟีดแบ็กอะไรมาเยอะมากตอนที่คบแรกๆ แต่พอมาสัมผัสตัวตนจริงๆ ของพี่เป้ ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น รู้สึกว่ากรเป็นรอยยิ้มให้เขาได้ กรน่าจะมีอิทธิพลอะไรบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้ แล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยนค่ะ”

เรียกได้ว่าตอนนี้เราข่มพี่เป้ได้?
กร “เรียกว่าเราให้เกียรติกันและกัน(หัวเราะ)”

ไม่ได้เป็นตามข่าวลือที่ว่าแต่งฟ้าแลบ เพราะตั้งท้อง?
เป้ “อันนี้เป็นเรื่องหลักเลยนะครับ อยากจะบอกนิดนึงว่าผมแพลนไว้อยากมีน้องไวไว หลังจากที่แต่งงาน แต่หมายถึงหลังจากแต่งงานนะ ตอนนี้เรายังไม่มีงานแต่งเลย จดทะเบียนไปแล้ว แต่ยังไม่ได้มีงานแต่ง เพราะฉะนั้นจะบอกกับพี่ๆ สื่อทุกคนว่า…น้องไม่ได้ท้องนะครับ แต่ผมอยากมี

ทำไมถึงจดทะเบียนเร็ว?
เป้ “อันนี้จะเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ ฟังดีๆ นะครับ ดีเทลเยอะ คือผมไปเล่นดนตรีที่งานสามัคคีเฟส ซึ่งเป็นงานของน้องๆ นักศึกษาไทยที่ลอนดอน ได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตไทยในลอนดอน หนึ่งในที่มาเป็นประธานคือ “ท่านพิษณุ” เอกอัครราชทูตอยู่ที่นั่น คือท่านได้ทราบข่าวว่าผมขอน้องกรแต่งงาน ก่อนที่ผมจะเล่นคอนเสิร์ตหนึ่งวัน

นักศึกษาไทยที่นั่นก็พูดเรื่องนี้เยอะ และมีน้องคนหนึ่งในสามัคคีเป็นคนถ่ายวิดีโอให้ผม เขาก็เลยคุยกันว่าวันนี้พี่เป้จะขอแต่งงานนะ แต่ปรากฏว่าพอน้องเซย์เยสปุ๊บ ข่าวก็ออกไป มันทำให้ถึงหูท่านทูต

ด้วยความเมตตาของท่าน ท่านก็เรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว ก่อนที่จะเล่นคอนเสิร์ต เรียกเข้าไปบอกว่ายินดีด้วย พอดีอยู่ในพื้นที่การดูแลคนไทยของท่านที่นั่น ท่านก็เลยบอกว่าถ้าสมมุติไม่ติดอะไร ถ้ายังไม่รู้จะไปจดทะเบียนที่ไหน ถ้ายังไม่มีแผนแบบนี้ ท่านบอกท่านยินดีที่จะเป็นนายทะเบียนให้ที่ลอนดอน

ซึ่งผมก็ตกใจว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เพราะผมทราบดีว่าการที่จะต้องจดทะเบียนมันไม่ใช่กิจของท่านทูต เพราะมันเป็นกิจของนายทะเบียนอีกชั้นหนึ่ง ถ้าเป็นกิจของท่านทูตผมรู้สึกว่ามันเป็นเกียรติสำหรับวงศ์ตระกูลอย่างมาก

เราก็เลยรู้สึกปลื้มใจและตกใจมาก แต่เราก็ยังไม่แน่ใจว่าจะพร้อมจะทำหรือเปล่า ยังไม่ทราบเรื่องเอกสาร แต่ท่านทูตบอกว่าเรื่องเอกสาร ถ้าตัดสินใจจดทะเบียนที่นี่ ท่านจะส่งคนมาดูให้ สุดท้ายเราใช้เวลาตัดสินใจประมาณหนึ่งคืน

กร “ใช่ค่ะ กลับไปจัดคอนเสิร์ต นั่งคุยกัน มาตกลงว่าโอเค งั้นจดที่นี่เลย แล้วก็บอกทางบ้าน”

เป้ “สุดท้ายเอกสารที่ใช้มีแค่ พาสปอร์ตและบัตรประชาชน”

กร “ใช่ 2 อย่าง แล้วก็มีแบบฟอร์มอินฟอร์เมชั่นที่สถานทูตส่งมาให้กรอก”

อันนี้มันมีผลกับทางกฎหมายในไทยด้วยใช่ไหม?
เป้ “ใช่ครับ จริงๆ ที่มันดีอย่างนึง พอเราไปอยู่ที่นั่น มีคนช่วยทำเอกสารค่อนข้างเยอะมาก ในการเดินเรื่อง จริงๆ ต้องขอขอบคุณพี่ๆ ทุกคน พี่ๆ ที่อยู่ที่นั่นที่ดูแลเรา พี่ๆ ที่สถานทูต พี่ๆ ที่สามัคคี และหลายคนที่ทำให้เรามีวันนี้ได้”

กร “มีอย่างหนึ่ง ท่านทูตบอกไว้ว่าเราเป็นคู่แรกที่ท่านอนุเคราะห์จดทะเบียนให้”

เป้ “เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลของเราอย่างมาก พอมีโอกาสแบบนี้ เราก็เลยตัดสินใจจะคว้าไว้ น้องกรก็ไม่รอ รีบโทรหาปะป๊าหม่าม้าเลย”

คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
กร “จริงๆ ถือว่าโอเคมาก ท่านให้ตัดสินใจเองได้เลย โตแล้ว ถ้ากรว่ายังไงทุกคนโอเคหมด”

อย่างนี้ที่เมืองไทยจะต้องจดทะเบียนอีกไหม?
เป้ “อ่อไม่ครับ เรียบร้อยแล้ว มันมีเอกสารมาเรียบร้อย เสียดายมากวันนี้ผมรีบออกมา ไม่ได้เอามาด้วย ต้องขอโทษจริงๆ”

เอกสารต้องส่งตามกลับไปไหม?
เป้ “จริงๆแล้วตรงนั้นมันครบเรียบร้อยแล้วครับ”

กร “สถานทูตจัดการให้ทุกอย่างหมดเลย ทางเราส่งแค่บัตรประชาชนและพาสปอร์ต”

อย่างนี้เรียกว่าเป็นสามีภรรยาได้แล้ว?
เป้ “ใช่ครับผม นี่ภรรยาผมครับ”

กรเปลี่ยนนามสกุลด้วยไหม?
กร “พอวันที่จะจดทะเบียน ท่านทูตดูฤกษ์ไว้ให้เราด้วย เป็น 14.49 นาที ก่อนที่จะไปสถานทูต ทางทีมสถานทูตถามว่าจะเปลี่ยนนามสกุลไหม ถ้าเกิดจะเปลี่ยนจะพิมพ์และปริ้นต์ออกมาให้ เราก็เลยโทรกลับไปหาที่บ้าน ปะป๊าบอกว่าให้ตัดสินใจเองอีก ยังไงก็ได้ เราก็ตัดสินใจเองไม่ได้ 

เลยทักไปหาหมอดู(หัวเราะ)ที่เราดูประจำ พี่เขาบอกว่ายังไม่ต้องเปลี่ยน เหมือนนามสกุลกรไปค้ำเจริญราษฎร์เอาไว้จะได้ซัพพอร์ตกันไป เดี๋ยวรอมีลูกค่อยมาว่ากันอีกที ว่าจะเปลี่ยนหรือเปล่า ตอนนี้เรายังเป็นนางสาวอยู่ค่ะ เดี๋ยวรอมีน้องแล้วค่อยเปลี่ยทีเดียว”

งานแต่งมีแพลนยังไง?
เป้ “จริงๆ แพลนไว้ว่าเป็นต้นปีหน้า แต่ว่าหม่าม้าไปดูดวงมาอีกแล้ว”

กร “ที่บ้านเป็นคนจีน จะค่อนข้างถือเรื่องปีชง แล้วปีหน้ารู้สึกว่าใครสักคนหนึ่งจะชง เลยดูไว้ว่าจะเป็นปลายปีนี้”

เป้ “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับงานของเราด้วย เงินในกระเป๋าด้วย ถ้าพี่ๆ อยากให้งานสวยๆ ถ้ามีโอกาสได้ร่วมกันทุกๆ ท่านได้รูปสวยๆ มา ฝากโปรโมตหน่อยให้เราได้ดังๆ ให้มีเงินมาให้ทีมงานเยอะๆ นะครับ (หัวเราะ) มีค่าสินสอดเยอะๆ มีโรงแรมสวยๆ ครับ”

รายละเอียดยังไม่ได้แพลนอะไร?
เป้ “แค่คร่าวๆ เราอยากให้มันถูกต้องตามประเพณี ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องเเป็นห่วง ทั้งฝั่งผู้ชายและฝั่งผู้หญิงด้วย อยากจะให้ทั้งคู่รู้สึกสบายใจ ที่เราจะได้ดูแลกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายครับ น่าจะมีแพลนไว้ แต่ก็น่าจะเป็นคร่าวๆ ก่อน ที่คิดไว้คือปลายปี แต่ไม่อยากจะรับปากไว้ เผื่อวันหนึ่งมันต้องเคลื่อน เดี๋ยวจะกลายเป็นผิดคำพูดครับ”

แสดงว่ารอแต่งก่อน ค่อยมีน้อง?
เป้ “อยากให้เป็นแบบนั้น เราเป็นคนไทยก็อยากให้ถูกต้องนิดนึงครับ”

ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสามี-ภรรยากัน?
เป้ “เพิ่งเริ่มครับ แต่ก่อนมีถ่ายรายการ มีแว้บๆ ไปกันบ้าง ส่วนตอนนี้ก็ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาครับ

เป็นยังไงบ้าง ได้มาใช้สถานะสามีภรรยา?
เป้ “ผมรู้สึกว่า บ้านดูเป็นบ้านมากขึ้น ดูเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบ มีความอบอุ่นมากขึ้น เวลาทำอะไรมีคนช่วยคิด เวลาทำผิดพลาดก็มีคนช่วยติ ช่วยเตือน ทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะอาจจะเรียกว่าชีวิตคู่มังครับ”

กรต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง?
กร “ไม่ได้รู้สึกเกร็ง หรือปรับอะไรเยอะ เป็นตัวเองมากที่สุด ตรงไหนที่อยากจะปรับ หรืออยากจะให้เขาปรับก็บอกกัน เตือนกัน ดูไปเรื่อยๆ”

อะไรในตัวเป้ที่กรทำให้เปลี่ยนไป?
เป้ “โห เยอะมาก”

กร “เยอะมาก เหมือนเป็นนิวเวอร์ชั่นของเขาเลย”

เป้ผมรู้สึกใจเย็นลงมากๆ มองถึงอนาคตมากขึ้น มีแผนในทุกเรื่องมากขึ้น รู้สึกว่าใช้ชีวิตทุกวันแบบปลอดภัยมากขึ้น เพราะรู้สึกว่ามีใครที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นแล้ว นอกจากคุณพ่อคุณแม่ เราทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว และเพื่อเขาอีกคนหนึ่ง อีกไม่นานเราก็ต้องทำเพื่อตัวเล็กของเรา

เลยทำให้การใช้ชีวิตของเราปลอดภัยมากขึ้น และเลิกหลายเรื่องมาก เหล้า บุหรี่ ปาร์ตี้น้อยลงมาก ตอนนี้ทำงานเยอะขึ้น ออกกำลังกาย ใช่ครับ ออกกำลังกายเยอะมาก รักชีวิตตัวเองมากขึ้น อยากใช้ชีวิตอยู่กับเขาไปนานๆ

เรียกว่าถอดเขี้ยวเล็บจากเมื่อก่อน?
เป้ “จริงๆ เป็นแมวมานานแล้ว อาจจะมีข่วนบ้างเป็นรอย แต่ก็เป็นธรรมดา นิดหน่อย”

วันนั้นที่ขอเขา พูดอะไรกับเขา?
เป้ “สวัสดีครับ คุณกรครับ one wish ของคุณครับ ถ้าขอได้อย่างหนึ่งจะขออะไร”

กร “ขอให้มีความสุขในทุกๆวัน ไปเรื่อยๆ”

เป้ “เเค่นี้เองหรือ แล้วรู้มั้ยว่าไอ อยากจะขออะไร ขอแต่งงานกันได้ไหม ประมาณนี้เลยครับ เรียบง่าย”

อย่างกร เขาเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อเราขนาดนี้ รู้สึกยังไงบ้าง?
กร “ดีใจนะคะ เราก็ไม่ต้องหนักใจกับเรื่องอะไรเยอะ อีกอย่างหนึ่งทำให้กรมั่นใจในตัวเขาได้เร็ว รู้สึกปลอดภัย อยู่ด้วยรู้สึกมั่นคงในชีวิตคู่ เราไปโฟกัสเรื่องการทำงาน การสร้างครอบครัวแบบนั้นมากกว่า”

มีเรื่องอะไรอยากบอกเขาไหม?
กร “ตอนนี้ไม่มีเลย ทุกอย่างตอนนี้ที่เป็นพี่เป้โอเคแล้ว ขอให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างนี้ จะได้เป็นพ่อที่ดีของลูกในอนาคต

เป้ล่ะ อยากบอกอะไรน้องไหม?
เป้ “จริงๆ แล้วคำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำ แต่สุดท้ายการกระทำต้องนำด้วยคำพูด ผมจะพูดไว้ตรงนี้แล้วกัน ว่าผมจะดูแลน้องให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวเราสมบูรณ์ และอบอุ่นเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ ในลักษณะหัวหน้าครอบครัวที่ดีให้ได้ครับ

ขอบคุณภาพ IG : mildvocalist

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : บันเทิง Archives – ข่าวสด
ขอขอบคุณ : บันเทิง Archives – ข่าวสด