“วิว” ท้าทายตัวเอง บู๊จริง จูบจริง ไม่บอก “เจษ” มองอนาคตไว้แต่ไม่รีบแต่ง


ให้คะแนน


แชร์

“เรื่องนี้บู๊เยอะ กังวลเหมือนกัน ไม่เคยเล่นเลย เป็นบทที่ไม่เคยนึกถึงว่าจะทำได้เพราะไม่มีความบู๊แอ็กชันในตัวเลย นอกจากบทอื่นที่ได้รับก็มีบทนี้แหละที่ไม่คิดจะกล้าก้าวข้ามผ่านเพราะต้องไปเรียนจริงจัง ถามว่าผิดคิวมั้ย ยังไม่มีค่ะเพราะซ้อมเยอะมาก แต่มันเจ็บเป็นปกติเพราะเวลาถ่ายมันไม่สามารถเอาเบาะมาเซฟเวลากลิ้งทุกครั้ง เรื่องนี้เลยเหมือนเป็นสตันต์จริงๆ ส่วนใหญ่ก็เล่นเอง”

เลิฟซีนก็เล่นจริง?

“ใช่ค่ะ เลิฟซีนของช่องวัน หลังๆก็มีจูบจริงอยู่แล้วขึ้นอยู่ว่าเลเวลไหนของความรักพระเอกนางเอก นักแสดงก็เล่นเท่าที่บทไปได้หรืออาจจะมีเคมีนอกเหนือจากนั้นนิดๆหน่อยๆที่เราเพิ่มเติมเข้าไป”

ต้องบอกเจษมั้ย?

“ไม่บอก เค้ายังไม่บอกเลย มันก็เป็นเรื่องของการทำงานของเราอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ปรึกษา เห็นแว้บๆก็มีแอบไปถามนะ จริงๆเค้าไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรเลย เค้าบอกว่ามันก็เป็นงาน บอกว่า เราทำงานเราก็ต้องเข้าใจสิ ก็ต้องเข้าใจเหมือนกัน เพียงแค่ถ้าไม่ชอบก็ไม่ดูค่ะ แต่เค้าไม่เป็นอะไรอย่างนี้เลยนะ เราโตแล้ว แล้วมันก็เป็นงาน ต้องขอบคุณที่เค้าเชื่อใจ แค่ทำงานเท่านั้น แล้วเค้าก็ช่วยโปรโมตจริงจังมากเลย”

แล้วเค้าบอกอะไรเรามั้ย?

“ไม่ต้องบอกเลยว่าต้องถ่ายฉากนี้ๆ อันนั้นน่าจะเป็นความผู้หญิงของเรามากกว่า ที่มีอะไรรึเปล่า เราจะฟีลอยากรู้ ก็อยากรู้เป็นคนแรกอะไรแบบนี้ ซึ่งไม่ได้ซีเรียสกัน ทางเจษเค้าจะสบายมากๆ ไม่มีอะไร ไม่ค่อยมีหวงอะไร มีบ้างแค่นิดหน่อย”

เพิ่งผ่านวันเกิดมาด้วย?

“โตขึ้นค่ะ พอมันผ่านเลข 3 มา นี่ปีที่ 3 เราก็ 33 เราคิดเองว่ามันเป็นเลขเบิ้ล ก็สวยดี ชอบเลข 3 ขอให้มันดีๆแล้วกัน ละครเรื่องใหม่อะไรที่เราไม่เคยทำก็หวังให้มันมีการคลิกอะไรเกิดขึ้น”

มีของขวัญอะไรให้ตัวเอง?

“น่าจะเป็นอะไรที่สบายใจมากขึ้น ทำงานไม่เครียด พยายามจะให้อะไรที่เป็นความสุขมากขึ้น มองสิ่งเล็กๆ ไม่กดดันกับชีวิตตัวเอง ยิ่งโตอะไรที่ไม่ต้องคิดไปไกล ไม่ต้องคิดไปก่อนล่วงหน้า ไม่ว่าจะสถานการณ์อะไรก็พยายามจะให้ตัวเองชิลๆ สบายใจมากขึ้น”

ได้ของขวัญอะไรจากเจษ?

“เราก็ชี้เลยค่ะตามอินสตาแกรม เค้าก็ให้แหวน ไม่ได้มีอะไรนะคะ เป็นแหวนที่สั่งเอง ใส่นิ้วชี้”

ไม่ได้หมายถึงข่าวดีใช่มั้ย?

“ยัง ถ้าอันนั้นให้เค้าเป็นเซอร์ไพรส์ ยังไม่ถึงจุดนั้นเลย คือมองๆ ไว้ น่าจะยังไม่ใกล้ๆ นี้ มองแค่ว่าเราคบกันจริงจังนะ ไม่ได้เล่นๆ เราก็มองไปถึงอนาคตข้างหน้า ยังไม่สรุปว่ายังไง ก็อยู่ดูแลกันไป”

เราอายุ 33 ปีแล้วนะ?

“แต่ว่าเค้าเด็กไง เรามาเกิดก่อนซะเยอะเลย มันเป็นเรื่องของอายุที่ต่างกัน ผู้หญิงก็จะรู้สึกว่าเราแก่ขึ้นไปทุกวัน แต่เราเองก็อยากทำงานเลี้ยงครอบครัวไปก่อน อยากหาเงิน อยากเก็บเงินให้ตัวเองพร้อม เราไม่ได้ว่าจะต้องแต่งวันนี้ พรุ่งนี้ เค้าก็พูดเอง เค้าก็รู้อยู่แล้ว เค้าโตแล้ว เค้าเพิ่งขึ้นเลข 3 มาเป็นรุ่นเดียวกับเรา เค้าเพิ่งจะเริ่มใช้ชีวิตเป็นผู้ใหญ่จริงจัง ให้เค้าได้มีเวลาคิดไปก่อน เวลาคุยก็คุยกันบางๆ ไม่ได้มีอะไร เป็นความรู้สึกของคนทั่วๆไป เวลารักใครสุดท้ายก็อยู่ด้วยกัน แต่งงานกัน มันเป็นออฟฟิเชียลว่าเป็นคนที่คบกันเท่านั้นเอง แต่จริงๆสุดท้ายมันเป็นเรื่องของการอยู่ดูแลกันมากกว่า ไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วทุกอย่างจะจบ แฮปปี้เอนดิ้ง ก็เลยต้องคิดยาวๆก่อน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2383562
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2383562