“จริงๆ ปลายปีก็เป็นช่วงที่ดีทูบีก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่อะไรแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ว่าปีนี้ก็ขอกับทางอาร์เอสเอาไว้ว่าพอดีแฟนผมจะคลอดช่วงนั้น แล้วผู้หญิงท้องจะมีช่วงเบบี้บลู ฮอร์โมนมันเปลี่ยน ผมเคยรับคอนเสิร์ตแล้วตอนนั้นออยคลอดพอดี เราก็ต้องเผชิญกับอะไรที่มันเป็นครั้งแรก แล้วเราไม่รู้และเราไม่ได้อยู่กับเค้า ครั้งนี้เราก็เลยเป็นห่วงและบอกกับทางอาร์เอสว่าปลายปีนี้ขอเว้นวรรคไว้ก่อนเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด ฉะนั้นก็เลยขอเลื่อนไปก่อน”

“ตอนนั้นจำภาพตอนที่ออยเค้าแบบร้องไห้ที่ไหล่เราได้ แล้วเค้าก็บอกว่าเราแค่อยากเห็นหน้าเธอเราก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ด้วยคำพูดนั้นเราก็รู้สึกผิดมากเลย เพราะเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตใหญ่มันซ้อมทุกวัน ผมออกจากบ้านไปตั้งแต่ 8 โมงเช้า บางทีเค้ายังไม่ ตื่นเลย พอกลับบ้านมาบางทีก็ดึกมากแล้วเค้าก็เข้านอนแล้ว ตอนนั้นมันก็เลยเป็นความรู้สึกผิดที่ว่าเราไม่ได้อยู่กับเค้าในช่วงหนึ่งเดือนแรกที่ลูกกำลังอ่อนๆ แล้วเค้าก็ต้องเผชิญกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป เหตุการณ์นั้นมันก็เลยติดใจเรานิดนึง ครั้งนี้ก็เลยบอกกับออยไปว่าในช่วงระหว่างที่ท้องจนคลอดเดี๋ยวเราจะอยู่กับเธอหลังจากนั้นอีก 3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นงานละครอะไรที่มันยาวๆที่เราจะต้องไปทั้งวันก็จะไม่ได้รับเลยเพราะรู้สึกว่าอยากใช้เวลาตรงนี้เพื่อที่จะชดเชยในสิ่งที่เราเคยทำในครั้งนั้น”

“ไม่ได้บอกขนาดนั้น แต่ก็บอกว่าเราตัดสินใจว่าเราไม่รับนะ คือตอนที่ทางอาร์เอสถามว่าจะมีมั้ยคอนเสิร์ต ใจเราก็อยากเล่นแต่ว่าเราก็คิดถึงภาพเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วว่ามันเป็นยังไง ผมก็นอนคิดอยู่คืนหนึ่ง รุ่งเช้าก็ไปบอกเค้าว่าผมไม่เล่นดีกว่า”

“ไม่ได้ถามแดนเลยก็ตัดสินใจไปเลย เพราะรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เราจะต้องทำเพื่อครอบครัวเรา”

“ต้นปีหน้าประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์น่าจะได้แล้วครับ ก็ฝากหนังเรื่องทวงคืนด้วยหลังจากนี้อาจจะเว้นวรรคไประยะหนึ่ง”

“เค้าก็จะมีช่วงที่อ่อนแอประมาณว่าแบบแพ้ท้อง แล้วก็จะมีช่วงที่ฮอร์โมนเค้าเปลี่ยน ผมก็อยู่ด้วยตลอดด้วยความที่เราก็เป็นห่วงเค้า โชคดีที่ว่าช่วงนี้มีงานที่ได้ทำด้วยกันด้วย โชคดีและต้องขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนครอบครัวเรา”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากเลยเพราะว่าตอนที่เค้าเป็นครั้งแรกผมงงมาก เพราะเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้ สำหรับผมออยเค้าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก มีโฟกัสเวลาตั้งใจทำอะไร หรือแม้แต่เรื่องที่เค้าเป็นเบบี้บลูเค้าก็คิดและรู้แล้วว่าอาการฮอร์โมนเปลี่ยนมันเป็นยังไง เค้าจะดีลกับตัวเองได้ เค้าก็เลยบอกให้ผมไปทำงานได้เลยในช่วงนั้นที่ผมเล่นคอนเสิร์ต แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เลยรู้ว่ามันไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าตอนที่ฮอร์โมนเปลี่ยนความรู้สึกมันเป็นยังไง คนที่อยู่ข้างๆ คือต้องอยู่ใกล้ๆ จะบอกว่าให้กำลังใจบางทีมันก็ส่งไปไม่ถึง ง่ายๆคือต้องอยู่กับเค้ากุมมือเค้าไว้”

“ผมก็อยากให้เค้าช็อปปิ้งแต่เวลาจะใช้เงินเค้าก็เป็นคนที่คิดเยอะแล้วครอบครัวเราก็อยากจะเซฟทุกอย่างเพื่อลูก ตอนนี้ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันคูณสี่ ถามว่าใช้วิธีไหนรับมือ คือถ้าเค้าอยากได้อะไรเค้าก็บอกตรงๆ ทั้งของกินหรือสิ่งของอะไร ช่วงนี้เค้าอยากกินอะไรหรืออยากได้ของอะไรผมก็สปอยล์เลย เพราะผมคิดว่าสิ่งที่เค้าทำอยู่มันเป็นการเสียสละมากๆจนไม่รู้ว่าเราจะช่วยยังไงเลยตามใจไปเลยครับ”.