“เอ๊าะ กีรติ” ฝากกดดัน “เพชร กรุณพล” แต่งงานได้แล้ว ห่วงจะแก่เกินจนต้องนั่งรถเข็น กับสาวคนนี้เพื่อนๆ ไฟเขียว เชียร์สุดตัว เผยถามตลอดเรื่องแต่ง แต่เจ้าตัวยังอึกอัก บอกขอทำร้านขนมให้เสร็จก่อน เรื่องลูกก็ยังไม่ได้คิด แพลนชีวิตอยู่ในสเต็ปสั้นๆ

ออกอาการอยากจะเห็นน้องชายเป็นฝั่งเป็นฝาจนตัวสั่นซะแล้ว สำหรับ “เอ๊าะ กีรติ เทพธัญญ์” ที่ถึงกับเอ่ยปากกับสื่อว่าอยากจะจัดงานแต่งให้หนุ่ม “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” แบบบอกเช้าจัดเย็นมันซะเลย เพราะกลัวว่าน้องชายจะแก่จนต้องนั่งรถเข็นไปซะก่อน แถมกับสาวน้อยที่เจ้าตัวคบอยู่ตอนนี้ เหล่าบรรดาเพื่อนๆ ก็เปิดไฟเขียว เชียร์สุดตัว อยากจะให้ลงเอยกันสักทีแล้ว

“กับคนนี้นานแล้วนะ แล้วมีความรู้สึกว่าคนนี้ดูเป็นธรรมชาติกับตัวเขาค่อนข้างมาก แต่ว่าตอนนี้เราสังเกตเห็นเขากำลังให้ความสนใจอยู่กับเรื่องร้านขนมเขา วันนั้นเจอกันเราก็คุยเรื่องนี้กัน ก็บอกว่าเดี๋ยวรอขอให้ร้านตรงนี้มันเสร็จก่อน เพราะว่าเขากะตั้งลำในธุรกิจนี้ที่เขาชอบคือการทำขนม แล้วเขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำมากๆ เรื่องขนม จริงๆ เขาเป็นคนอยากแต่งงานเป็นคนแรก ผมกับเสนาลิงไม่เคยมีเรื่องพวกนี้อยู่ในหัว แต่ไปก่อนเลย ใจแตกทั้งคู่ แต่เดี๋ยววันหนึ่งเพชรเขาก็เดินมาเส้นนี้แหละครับ เพียงแต่ว่ารอเวลา”

“ทุกวันนี้ถ้าเจอหน้าคือเรื่องอื่นไม่คุยนะ เอาเรื่องนี้ก่อน เพราะมันเป็นเรื่องที่เราเป็นห่วงเขา เรารู้แล้วว่าการมีคู่ชีวิตมันช่วยแชร์ในบางเรื่องของเรา มันดีนะ ถึงแม้บางทีมันอาจจะเหน็ดเหนื่อย มีทะเลาะเป็นปกติ แต่ในการที่มีคนมาช่วยแบ่งเบาบางเรื่อง หรือมารับฟังบางเรื่อง มันค่อนข้างดี ซึ่งน้องเขาโอเคมากนะ”

ส่วนตัวเชียร์คนนี้ เพราะดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับเพื่อนๆได้ แต่ยังไงก็ต้องแล้วแต่เพชร
“อันนี้มันแล้วแต่เพชรนะ แต่ผมว่าดูเขาเป็นธรรมชาติมาก ดูเขาสบายๆ ไม่ต้องแต่งตัว ก็เลยมีความรู้สึกว่าคนนี้แหละ คิดว่านะ ก็พยายามเชียร์กัน เราก็เทสน้องนะ คุยโน่นนี่ให้ได้ยิน ไม่มีอาการเลย สองคือเวลาอยู่กับผู้ใหญ่ หรืออยู่กับเรา น้องเขาก็วางตัวโอเค เพรชไม่ต้องนั่งเอาอกเอาใจมาก ดูเป็นธรรมชาติจนเรามีความรู้สึกว่าถ้ามนุษย์ หนึ่งบวกหนึ่งแล้วได้เป็นหนึ่งจริงๆ อันนี้มันน่าจะใช่แล้ว”

บอกคุยถามเรื่องแต่งงานตลอด แต่เจ้าตัวก็ยังอึกอัก
“คุยตลอดๆ แต่เขาก็ยังอึกอัก ผมบอกว่าพี่เคยเป็นคนที่รอความพร้อม แล้วคำว่าพร้อมมันไม่มีเลยนะ จนวันหนึ่งเราเดินเข้าไปเลย ถึงได้รู้ว่าเราพร้อมตั้งแต่ตัดสินใจเดินเข้าแล้ว มันเป็นอย่างนั้น แล้วจากที่เราเห็นความต่างของอายุก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีอย่างเดียวคือสงสารน้องผู้หญิงนะ ถ้าเขาแต่งงานกัน แล้วผ่านไปแล้วสัก 10 ปี ต้องเข็นเพชรไปตากแดด ต้องจับมือเพชรไปรดน้ำต้นไม้ (หัวเราะ) สงสารเด็กผู้หญิงคนนั้น แต่ก็คิดว่าคนนี้น่าจะดูแลเพื่อนเราในยามนั้นได้ น้องมีความเป็นห่วงเป็นใยเสมอ ในแววตาน้องมีความเป็นห่วงเสมอทุกครั้งเลยนะ ถามว่าไฟเขียวไหม พวกผมชอบเลย แบบคนนี้โอเคๆ ถ้าจะแต่งคือบอกเช้าทำเย็นได้เลย พวกพี่ทำทัน”

“แต่เราไม่รู้ว่าเขาอยากมีลูกหรือเปล่านะ เพราะน้องก็อยากเดินทางไปเที่ยวถ่ายรูป ไปใช้ชีวิตกัน เพราะว่าการมีลูก นั่นหมายถึงว่าผู้หญิงต้องหยุดการท่องเที่ยวไปประมาณ 5 ปีแรกเลย มันอยู่ที่เขาคุยกัน แล้วเพชรตอนนี้ก็คงยังไม่ได้อยากมีลูก เพราะรอบตัวมีหลานเป็นดงเลย ลุงเพชรๆ เขาจะเห็นความน่ารัก หรือเห็นความนรก ต้องเอาให้แน่ๆ แต่ก็เคยคุยเรื่องลูกกับเขานะ เขาบอกว่ายังไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น คิดแค่ตอนนี้กำลังจะทำอะไรที่มันเป็นแพลนสั้น ทำทีละสเต็ป เพราะวางแพลนยาวแล้วมันเจ็บ”

“เขาเป็นคนใช้ชีวิตสบายมาก เขาเข้าใจชีวิตตัวเขาเอง ความต้องการของตัวเอง แล้วก็ใช้ชีวิตแบบนี้ จริงๆ เขาเป็นไฮโซมาก่อนนะ ก่อนจะมาเจอพวกผม แล้ววันหนึ่งเขาก็ลงมาเป็นแบบโลว์คอลแบบดื้อๆ เลย แล้วพอมาเป็นแบบนี้ เขารู้สึกว่าชีวิตเขาสบายมาก เป็นอะไรก็ได้ ไปไหนก็ได้ นั่งกินข้าวข้างทางได้ด้วย”

“ถ้าร้านขนมเสร็จก็เดาว่าอาจจะมีข่าวดี ถ้าเขามีแรงต่อนะ เพราะว่าพอทำธุรกิจ พออันนี้เสร็จก็มีอย่างอื่นต้องรันอีก ตอนนั้นเขาก็จะปวดหัวอีก ต้องรอให้เข้าที่ถึงจะกลับมาคิดเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เกินเวลาที่เรารอคอยไม่ได้หรอก ยังไงเรารอคอยได้อยู่แล้ว เพราะเพชรแก่ แต่น้องยังเป็นสาวขึ้นไปเรื่อยๆไง ก็น่าจะทันอยู่ น้องรอได้ แต่เจ้าบ่าวเนี่ย ไม่รู้จะต้องนั่งรถเข็นหรือเปล่า อายุเยอะ (หัวเราะ)“