แป้งโกะ ลั่นวิจารณ์รัฐบาลไม่ใช่เรื่องผิด หากแก้ไขปัญหาไม่ได้…ควรลาออก!


ให้คะแนน


แชร์

นักร้องสาว แป้งโกะ เดินหน้า Call Out วิจารณ์รัฐบาลไม่ใช่เรื่องผิด ลั่นไม่เคยเชื่อมั่นการบริหาร ถ้าแก้ไขปัญหาไม่ได้…ควรลาออก!

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับแป้งโกะ จินตนัดดา ลัมะกานนท์ ศิลปินสาวจากค่าย What The Duck โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตโควิดที่การบริหารจัดการของรัฐบาลล้มเหลว จนทำให้มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน

ทั้งนี้ แป้งโกะ ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงผลกระทบจากวิกฤตโควิดระลอก3 รวมถึงการกล้าที่จะออกมา Call Out ของตัวเอง และมุมมองที่มีต่อการทำงานของรัฐบาลชุดนี้

อัพเดตชีวิตช่วงนี้ ได้รับผลกระทบมากน้อยขนาดไหน? “ช่วงนี้ถ้าเป็นเรื่องทางด้านงานเพลงก็ถือว่าเอฟเฟ็กต์ที่สุดเลย นักร้องหลายคนก็ไม่สามารถที่จะไปแสดงคอนเสิร์ตได้ อย่างแป้งเองก็เลยชะลอเรื่องการออกเพลงไป เพราะตอนนี้รู้สึกว่ามันทำอะไรตรงนี้ไม่ได้เท่าไหร่ ส่วนเรื่องงานแสดงก็ค่อนข้างยากนิดหนึ่ง แป้งยังโชคดีที่เพิ่งปิดกล้องไปก่อนเดือนเมษา เลยไม่ได้เจอเรื่องปิดกองที่วุ่นวายเท่าตอนนี้”

“แล้วที่บ้านมีร้านอาหารก็จะต้องเปลี่ยนเป็นเดลิเวอรี่ อันนี้ตั้งแต่รอบแรกแล้วก็พยายามที่จะปรับปรุงเรื่องเดลิเวอรี่ของที่ร้านเพราะไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ตอนนี้เดลิเวอรี่ที่ร้านก็ค่อนข้างลงตัวแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีออนไลน์เอเจนซี่เล็กๆ ที่ทำกับเพื่อน อันนี้ก็ค่อนข้างกระทบเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งร้านอาหาร แฟชั่น คลินิก ซึ่งเขาเองก็ปิดๆ เปิดๆ”

อาชีพนักร้องค่อนข้างจะได้รับผลกระทบก่อนเพื่อน แล้วก็มักจะถูกนึกถึงทีหลัง ตรงนี้รู้สึกอย่างไร? “แป้งก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยแฟร์ แต่ว่าจริงๆ ถ้าให้แป้งมองทั้งหมดคือมันก็ไม่แฟร์กับทุกอาชีพเลยด้วยซ้ำ เพราะทุกคนต้องหยุดงานกันหมด ทำงานไม่ได้ แป้งว่าส่วนน้อยมากที่ยังทำงานได้ตามปกติและมีรายได้มีชีวิตที่ปกติ”

“โดยเฉพาะศิลปินคือโดนปิดตั้งแต่ต้นเลย ป้งเห็นเพื่อนๆ หลายคนที่ปกติงานเยอะมาก แล้วก็หาเลี้ยงชีพเลี้ยงดูครอบครัวด้วยงานนี้ ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาต้องมาลองทำโน่นทำนี่ เวิร์กบ้างไม่เวิร์กบ้าง บางคนก็ท้อแท้ แป้งก็มองว่ามันก็ไม่แฟร์ทั้งกับอาชีพศิลปินและกับคนอื่นๆ ด้วย เนื่องจากว่าเหมือนมันไม่ได้มีมาตรการเยียวยาอะไรที่แน่นอน”

ล่าสุดเพื่อนพี่น้องศิลปินออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาคนกลางคืน ตรงนี้เราได้มีส่วนร่วมด้วยไหม? “ตัวเราเองอาจจะไม่ได้ไปยื่น ไม่ได้ไปสภากับเขา แต่แป้งก็ช่วยในเรื่องของการแชร์ข้อมูลข่าวสาร เพราะเรามีคนติดตามหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไอจี ทวิตเตอร์ แล้วก็ไปร่วมลงชื่อไปร่วมอะไรด้วย ตอนนี้ทางศิลปินเองก็จะมีเปิดหมวกเฟสติวัลให้ช่วยกันบริจาคเงินช่วยเหลือกัน เราก็พยายามทำในส่วนที่เราทำได้ให้มากที่สุด”

มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนที่เป็นอยู่ตอนนี้? “พูดตรงๆ ว่าแป้งเห็นว่าเขาจัดการได้ไม่ดีเลยตั้งแต่ต้นอยู่แล้วนะคะ ตอนนี้เหมือนเอาจริงๆ โลกเราทุกประเทศเลยผ่านวิกฤตโควิดมาประมาณสองปีได้แล้ว ซึ่งแป้งมองว่าสองปีเนี่ยมันก็มีกรณีศึกษาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาที่เขาระบาดหนักมาก อังกฤษที่เขาระบาดหนักมาก หรือว่าอินเดียที่เพิ่งหนักผ่านไปแล้วก็ดีขึ้น”

“แป้งว่ามันนานแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังบริหารจัดการวัคซีนได้ไม่ดีเท่าที่ควร จริงๆ คือประมาทตั้งแต่ต้นเลยแหละ ที่แบบจะเอาแค่วัคซีนตัวนี้กับตัวนี้เท่านั้น ตัวอื่นไม่ได้ไปติดต่อไม่ได้เข้าร่วมโคแวกซ์เพราะว่าประเทศเรามีศักยภาพพอ แต่สุดท้ายการที่เขาไม่ได้เข้าร่วมไม่ได้แพลนตั้งแต่ต้นตรงนั้นมันเหมือนไม่มีการวางแผน”

“พอมันวิกฤตจริงๆ ตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วที่จะแบบเอาวัคซีนที่มีคุณภาพเข้ามาให้เร็วที่สุดมันไม่ได้แล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งเฟลหนักเลย เพราะอย่างที่บอกว่าเราเห็นกันมาประมาณสองปีแล้วว่าประเทศอื่นเขาจัดการกันยังไง แต่ว่าตอนนี้กลับต้องให้ประชาชนมาเรียกร้องให้ฉีดไฟเซอร์ให้หมอ ซึ่งแป้งว่าจริงๆ คนที่ควรจะคิดได้เป็นคนแรกแล้วจัดการตรงนี้คือทางรัฐด้วยซ้ำ

ล่าสุดมีภาพคนที่ไปรอคิวตรวจโควิดซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจใครหลายคนมาก? “ใช่ค่ะ เอาจริงๆ มันคือความเหลื่อมล้ำสุดๆ ไปเลย คือก่อนหน้านี้แป้งก็แทบไม่ได้ตรวจเลยเพราะว่าอยู่บ้านตลอด แต่มันมีช่วงก่อนหน้านี้ที่เราต้องไปถ่ายรายการ เขาก็จะมีบริการตรวจโควิดให้กับทุกๆ คนที่จะเข้าไปถ่าย แล้วก็คือมันก็แค่ไปที่ตึกแล้วก็ไปจิ้มนิดหนึ่งก็เสร็จแล้วออกมา 5 นาที”

“แล้วพอตัดภาพมาวันนี้เห็นแบบเฮ้ย! ทำไมคนถึงต้องกลายเป็นว่ามานั่งต่อคิวอะไรแบบนี้แล้วล่ะ ทั้งที่จริงๆ มันก็มีแล็บเอกชนแล็บอะไรที่เขาพร้อมจะช่วยตรวจตรงนี้ ทำไมรัฐบาลถึงจำกัดการตรวจเอาไว้แค่ไม่กี่คนต่อวัน เห็นแล้วแบบหดหู่มากเลยพูดจริงๆ”

มองเรื่องวัคซีนทางเลือกยังไงบ้าง? “เอาจริงๆ แป้งก็ขอบคุณโรงพยาบาลหรือว่าหน่วยงานที่พยายามจะเอาวัคซีนทางเลือกเข้ามาให้ประชาชนฉีดกันนะคะ แต่ว่าถ้ามองกันตรงๆ แล้วเราก็ควรจะได้ฉีดวัคซีนที่ดีโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนกับประเทศอื่นๆ

“เพราะหนึ่งก็คือเราเสียภาษีกันทุกคนถูกมั้ยคะ แล้วก็มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะต้องเอาวัคซีนเข้ามาให้ทุกๆ คนฉีดได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ ถ้าสมมติว่าคุณอยากจะหยุดโควิดจริงๆ แป้งมองว่าตรงนี้คือสำคัญมากๆ เลย”

ถือเป็นดารานักร้องคนหนึ่งที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ทำไมถึงกล้าที่จะออกมาพูด? “แป้งมองว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนควรจะพูดได้อยู่แล้ว แต่ก็พูดตามตรงว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ค่อนข้างกล้าๆ กลัวๆ นิดหนึ่ง เพราะแป้งก็รู้สึกว่ามันไม่มีใครออกมาพูดตรงๆ เรื่องนี้เลย

“แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วแป้งก็เหมือนตามเซเลบฯ เมืองนอกหลายๆ คน พวกดาราฮอลลีวู้ดอย่าง คริส อีแวนส์ ที่แป้งชื่นชอบ แล้วก็ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กระแสโดนัลด์ ทรัมป์ เดือดๆ เหมือนคนเริ่มออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานแล้วก็เชียร์นักการเมืองอีกฝ่ายหนึ่ง แล้วก็เหมือนกับว่าเมื่อไหร่คุณจะออก ทำงานไม่ได้เรื่องเลย”

“แป้งก็เลยมองว่าเออ…เขาก็เป็นดาราดัง แบบที่อเมริกาเขาก็ค่อนข้างดังระดับโลกเลย เขาก็ยังกล้าที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลของเขาตรงๆ เลย แล้วก็มันก็เหมือนกับเป็นกระบอกเสียงหนึ่งด้วย ถ้าเกิดเราพูดไปมันอาจจะมีคนเอ๊ะ! เหมือนเราด้วยว่าจริง…มันเป็นอย่างนี้นะ”

“แป้งก็เลยกลับมาคิดว่าจริงๆ มันเป็นสิ่งที่เราควรจะทำได้และควรทำด้วยในเรื่องของการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เราก็เหมือนเป็นประชาชนคนหนึ่งถ้าเราเห็นอะไรผิดพลาด ขนาดเห็นอะไรผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านเราเรายังสามารถบอกพ่อแม่เราให้ช่วยซ่อมตรงนี้หน่อย”

“แต่ว่าอันนี้มันเป็นสเกลระดับประเทศ ถ้าเราเห็นการทำงานที่ผิดพลาดทำไมเราพูดถึงมันไม่ได้ แล้วทำไมการพูดถึงมันถึงเป็นอะไรที่รู้สึกว่ามันผิด ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ผิด แต่ควรจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดได้อย่างถูกต้องและควรจะพูดด้วยซ้ำ”

เวลาออกมา Call out ถามตรงๆ กลัวจะมีผลกระทบกับหน้าที่การงานไหม? “แป้งจะไม่เชิงกลัวค่ะ แต่ว่าจะออกแนวเกรงใจลูกค้าที่กำลังทำงานด้วยมากกว่า เราก็กลัวว่ามันจะมีกระทบอะไรกับการที่เรารับมามั้ย หรือถ้ามันฟีดแบ็กไม่ดีขึ้นมาเพราะเราจะทำยังไง เลยจะเป็นแนวๆ เกรงใจมากกว่า”

“แต่ถามว่ามันมีผลกระทบมั้ย มีๆ ค่ะ แต่มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น สมมติ 10 เจ้าก็จะมี 2 เจ้าที่อาจจะหายไป บางทีเราก็อยากรู้แล้วก็ไปถามเขาว่าอันนี้ตกลงคืองานแคนเซิลแล้วเหรอคะ เขาก็บอกอ๋อค่ะ แป้งก็จะแบบถามได้มั้ยคะว่าทำไม”

“เขาก็จะบอกว่าทางแบรนด์เขาก็อาจจะกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์นิดหน่อย แต่โอเคเราก็พยายามที่จะเข้าใจตรงนี้ว่าบางคนเขาอาจจะคิดมากนิดหนึ่ง แต่ว่าโดยรวมแล้วแป้งก็ถือว่ามันค่อนข้างน้อยนะคะ (ยืนยัน Call out ต่อไป?) ใช่ค่ะ เราก็ Call out เราก็ช่วยเท่าที่เราทำได้ค่ะ”

คิดว่าเป็นเพราะอะไรดาราบางคนถึงไม่กล้าออกมา Call out ? “จริงๆ รอบตัวแป้งก็มีทั้งคนที่ทำอาชีพนี้แล้วก็กล้าที่จะออกมาพูด แล้วก็ไม่กล้าที่จะออกมาพูด ซึ่งมันก็จะมีคนที่ไม่กล้าที่จะออกมาพูดแต่เห็นด้วยกับเราก็มีที่เขามาบ่นๆ ว่าเขาอยากพูดมากแต่เขาพูดไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง”

“แล้วก็มีคนที่เหมือนน่าจะไม่สนใจเลย หรือคิดเห็นตรงข้ามกันเลย แต่เอาจริงๆ แป้งก็อยากให้เขาออกมาพูด อยากให้ออกมา Call out แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาเหมือนกันที่อาจจะรู้สึกว่ายังไม่สะดวกที่จะมาพูดตอนนี้”

“แล้วก็สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจหรือไม่ได้คิดเห็นด้วยกันกับเรา แป้งก็คิดว่าจริงๆ การที่เราไปกดดันเขามันก็อาจจะยิ่งเหมือนแบบผลักเขาให้ห่างจากตรงนี้ออกไปหรือเปล่า อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวมากๆ เลยนะคะ แต่ส่วนตัวแล้วแป้งมองว่าเราควรที่จะ Call out และให้ความรู้เขามากกว่าที่จะไปบอกว่าเฮ้ย! ทำไมคุณไม่ Call out แล้วก็แบนๆๆ คือมันก็ได้ผลสำหรับบางกรณี”

“แต่แป้งมองว่ามันกลับยากขึ้นไปอีก คือมันเหมือนค่อยๆ ผลักคนออกไปด้วยถ้าเราไปกดดันเขามากเกินไป แต่ถ้าเราไม่กดดันให้เขา Call out แต่เราค่อยๆ ให้ความรู้ให้ข้อมูลด้วยสิ่งที่เรามีมันอาจจะทำให้วันหนึ่งเขารู้สึกว่า…ฉันต้องออกมาแล้ว”

“ซึ่งจริงๆ ทุกวันนี้แป้งก็เห็นเพื่อนดาราหลายคนที่เคยเงียบ พอเริ่มได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น เริ่มเห็นภาพอะไรที่แบบว่าทำให้เขาคิดได้ เขาก็เริ่มออกมาพูดแล้วนะ คือยังไงเราก็อยากให้ออกมา Call out เพราะคุณก็เป็นกระบอกเสียงที่ดีได้ คุณมีสื่อมีอะไรที่คนฟอลโลว์เยอะแยะ”

“ดาราออกมาพูดทีก็เป็นข่าวที แต่ประชาชนทั่วไปบางทีออกมาพูดคนก็อาจจะไม่ได้ยินเท่าศิลปินดาราออกมาพูด แต่ในขณะเดียวกันก็ใช่เมื่อเป็นประชาธิปไตย เราก็ไม่อยากให้ไปบังคับขู่เข็ญใคร อยากให้เราให้ความรู้จนกว่าเขารู้สึกว่ามันมันไม่ได้แล้ว….ฉันต้องออกมาแล้วมากกว่า”

หลายคนตั้งคำถามว่ามีความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ขนาดไหน ตัวเราล่ะว่ายังไง? “ถ้าให้พูดตรงๆ เลยแป้งก็ไม่ได้เชื่อมั่นตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว หนึ่งคือแป้งไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องรัฐประหารอยู่แล้ว สองก็คือตอนเลือกตั้งเราก็ไม่ได้เลือกเขาเข้ามา(หัวเราะ) มันก็เลยกลายเป็นว่าเราก็ไม่ได้เชื่อมั่นให้เขามาบริหารประเทศอยู่แล้วอ่ะ”

“แต่ว่าถ้าผลการเลือกตั้งมันออกมาเป็นอย่างนั้น อย่างที่เขาเคลมว่ามันโปร่งใสแล้ว แป้งก็ถือว่าโอเคเขาก็คงเข้ามาอย่างถูกต้องมั้ง แต่ถ้าถามว่าเราเชื่อมั่นมั้ย…ก็คือไม่เคยเลย”

อยากฝากอะไรถึงรัฐบาลบ้าง? “จริงๆ แป้งเชื่อว่าทุกคนฝากอะไรไปเยอะมากแล้ว แต่ว่าถ้าอยากฝากจริงๆ ก็อยากให้อย่างน้อยๆ ช่วยเหมือนกับว่าทำงานจริงๆ ตรงนี้ เห็นใจประชาชนจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องวิกฤตโควิดนี่คือมันมากกว่าการกระทบแค่สุขภาพอ่ะค่ะ แล้วมันก็มากกว่าเรื่องวิกฤตต้มยำกุ้งตอนนั้นอีก”

“แป้งรู้สึกว่าตอนนี้มันพังทั้งเรื่องสุขภาพ พังทั้งเรื่องเศรษฐกิจ พังทุกอย่างเลยอ่ะ แล้วก็สมมติว่าถ้ารัฐบาลเกิดบริหารไม่ได้จริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงก็อาจจะลองให้คนที่เขาเก่งเข้ามาช่วยมั้ย อย่างน้อยอะไรๆ ก็น่าจะดีกว่าตอนนี้”

ทางแก้ปัญหาและทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้? “จริงๆ ทุกคนที่คิดเห็นแบบแป้งก็น่าจะอยากให้เขาออกแหละ ออกแล้วก็ให้คนอื่นที่เก่งเข้ามาบริหารแทน แต่ถ้ามองในความเป็นไปได้แป้งก็ว่า ณ ตอนนี้น่าจะยาก เขาก็น่าจะไม่ออก(หัวเราะ) ดังนั้นก็อยากให้จัดการเรื่องวัคซีนให้ดีกว่านี้ค่ะ”

“แล้วก็แป้งรู้สึกว่าตอนนี้เขามีอำนาจ มีทั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีทั้งอะไร จริงๆ การสั่งการของเขาน่าจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดสรรวัคซีนให้เข้ามาเร็ว ฉีดวัคซีนให้หมอให้ด่านหน้าก่อนอะไรแบบนี้ อยากให้จัดการเรื่องพวกนี้ให้มันดีอ่ะ”

เห็นทวีตว่าการทำบุญประเทศที่ดีที่สุดคือการลาออก? “(หัวเราะ)จากความรู้สึกจริงๆ ค่ะ คือแป้งมองว่าทำบุญอ่ะมันดีมั้ย มันก็ดี อย่างน้อยๆ ที่สุดมันก็อาจจะช่วยในด้านจิตใจของประชาชน เวลาเราไม่สบายใจเราเข้าวัดแล้วก็สบายใจขึ้น”

“แต่แป้งมองว่าจริงๆ ปัญหาที่ควรจะแก้ที่สุดก็คือเรื่องการบริหาร เหมือนกับว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการบริหาร ดังนั้นการแก้ปัญหาก็น่าจะต้องแก้ที่ตัวรัฐบาล นั่นก็คือน่าจะลาออก(หัวเราะ)”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6502863
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_6502863